ทรูคอร์ปอเรชั่น
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รายงานผลประกอบการปี51 ขาดทุนสุทธิ 2.36 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.61 พันล้านบาทแล้ว จะมีกำไรปกติ 62 ล้านบาท ซึ่งดูเหมือนจะดีขึ้นมากจากขาดทุนปกติ 1.18 พันล้านบาทในปีก่อนหน้า แต่ก็ด้วยสาเหตุหลักจากการหยุดตัดจำหน่ายค่าความนิยม (1.3 พันล้านบาทในปี50) ตามมาตรฐานบัญชีใหม่
หากพิจารณากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมสิ้น (EBITDA)แล้ว ลดลง 5% จากปีก่อนหน้าเป็น 1.81 หมื่นล้านบาท ด้วยสาเหตุหลักจากการอ่อนแอลงของทรูมูฟซึ่งมี EBITDA ลดลงถึง 49% เป็น 5.69 พันล้านบาท ทั้งจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีและค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (ไอซี) สุทธิที่พลิกจาก +164 ล้านบาท ในปีก่อนหน้าเป็น -845 ล้านบาท จากการเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่นค่าโทร.ในท้องตลาด
คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผล กระทบต่อการเติบโตของธุรกิจเคเบิลทีวีและบรอดแบนด์ในปีนี้ และคงยากที่ทรูมูฟจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญได้ โดยแต่ละบริษัทจะใช้วิธีควบคุมลดค่าใช้จ่าย
TRUE ยังมีฐานะการเงินอ่อนแอมาก แม้จะระดมทุนได้ 6.4 พันล้านบาท ในช่วงต้นปี52 แต่หนี้สินสุทธิ ณ สิ้นปี51 สูงถึง 7.8 หมื่นล้านบาท อันเป็นอุปสรรคสำคัญในการขยายธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว
ดังนั้น บล.กิมเอ็ง จึงคงมองว่าหุ้น TRUE เต็มมูลค่า โดยประเมินราคาเหมาะสม 1.50 บาท/หุ้นตามวิธีคิดลดกระแสเงินสด