รวบบ.ทัวร์ตุ๋นขายบัตรเที่ยวไทย

รวบบ.ทัวร์ตุ๋นขายบัตรเที่ยวไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่เปิดบริษัทหลอกขายแพ็กเกจทัวร์ราคาถูก ก่อนเชิดเงินหลบหนี สร้างความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งตำรวจกองปราบปรามนำโดยพ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผกก. ช่วยราชการ บก.ป. พ.ต.ต.อดิเรก จินตรานันท์ ร.ต.อ.ศานุวงศ์ คงคาอินทร์ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลัง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน ประกอบด้วยน.ส.กรพัชรา ศรีรักษา หรือณัฐอร ศิริสุขะวัฒน์ หรืออร อายุ 32 ปี น.ส.ชุลี กำจัด อายุ 28 ปี นายอุกฤษฎ์ ด้วงมั่ง อายุ 22 ปี และนางถนอมขวัญ หรือนิด รักมั่น อายุ 34 ปี

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเดือนธ.ค.2551 มีผู้เสียหายกว่า 30 รายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนของกองปราบปรามว่า บริษัท ท่องเที่ยวไทย จำกัด ตั้งอยู่ที่อาคารซีเค เลขที่ 12/6 หมู่ 2 ซอยเพชรเกษม 69 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม มีนางกรพัชราเป็นเจ้าของ นายอุกฤษฎ์ นางถนอมขวัญ และน.ส.ชุลี เป็นพนักงานบริษัท หลอกขายแพ็กเกจบัตรทัวร์เพื่อเข้าพักที่โรงแรมวิรันดา รีสอร์ท แอนด์สปา หัวหิน ราคาชุดละ 2,499 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาปกติมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งทดลองซื้อบริการไป 6 ชุด พร้อมโอนเงินให้ เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบไปยังสำนักงานของวิรันดา รีสอร์ท แอนด์สปา พบว่ามีการติดต่อกับทางบริษัทท่องเที่ยวไทยจริง และสามารถไปใช้บริการได้จริง หลังจากนั้นผู้เสียหายติดต่อขอซื้อบัตรกำนัลเป็นแพ็กเกจเข้าพักของวิรันดารีสอร์ทฯ เพิ่มเติม รวมทั้งขอซื้อบัตรกำนัลเข้าพักที่ภูริมันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา ปราณบุรี อีกจำนวนมาก ก่อนจะนำมาขายต่อให้ผู้ที่สนใจทางอินเตอร์เน็ต ปรากฏว่ามีผู้มาขอซื้อจนบัตรกำนัลดังกล่าวหมดลงอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นเมื่อผู้เสียหายที่ขอซื้อแพ็กเกจผ่านทางอินเตอร์เน็ตไปแล้ว กลับไม่สามารถนำบัตรไปใช้เข้าพักได้ จึงติดต่อกลับมายังบริษัท ท่องเที่ยวไทย จำกัด แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีก และพบว่าบริษัทดังกล่าวปิดหนีไปแล้ว ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ในหลายท้องที่ และรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม โดยพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายศาลเข้าติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา กระทั่งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ได้

จากการตรวจสอบพบว่า นางกรพัชราเปิดบริษัทในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ในชื่อบริษัท สวัสดี เอเจนซี่ จำกัด, บริษัท ท่องเที่ยวไทย จำกัด และ หจก.ณัฐอรการท่องเที่ยว ก่อนจะปิดบริษัทหนี ส่วนนางกรพัชราเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 5 ครั้ง เปลี่ยนนามสกุล 3 ครั้ง โดยใช้ชื่อพิมพ์ภัค, ณัฐอร, สรัญญา, โสรยา และเขมจิรา นามสกุล ศรีรักษา, ศิริสุถขะวัฒน์ และศรีภัทรนันท์ และจากการตรวจสอบประวัติยังพบนางกรพัชรามีหมายจับอีก 3 คดี คือหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ ออกใบกำกับภาษีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในท้องที่ สน.ประเวศ, หมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ท้องที่ สน.โชคชัย และหมายจับศาลแขวงพระโขนง ข้อหาตามความผิดพ.ร.บ.เช็ค ท้องที่ สน.พระโขนง

พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหารายนี้จะดำเนินการเป็นขบวนการ ตั้งบริษัทหลอกลวงผู้เสียหายที่สนใจอยากเข้าพักโรงแรมหรูต่างๆ ในราคาถูก โดยโฆษณาชักชวนให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าสามารถใช้ได้จริงและอ้างว่ายิ่งซื้อแพ็กเกจจำนวนมากก็จะยิ่งมีราคาถูกลง อยากฝากถึงประชาชนที่ถูกหลอกลวงสามารถมาชี้ตัวผู้ต้องหาและแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่บก.ป.

จากการสอบสวนนางกรพัชรา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเปิดบริษัททัวร์จริง แต่ภายหลังเกิดมีปัญหากับหุ้นส่วนของบริษัท จนต้องเปลี่ยนชื่อบริษัท และเมื่อรู้ว่ามีหมายจับกุมก็เลยทำให้ต้องปิดบริษัทไป ส่วนเงินที่ได้มานำไปเป็นค่าใช้จ่ายในบริษัท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะพวกตนเป็นแค่เจ้าหน้าที่ของบริษัทเท่านั้น จึงส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook