ตามล่าสาวแสบ หลอกผู้ชายแต่งงาน 4 คน ก่อนหอบเงินสินสอดหนี

ตามล่าสาวแสบ หลอกผู้ชายแต่งงาน 4 คน ก่อนหอบเงินสินสอดหนี

ตามล่าสาวแสบ หลอกผู้ชายแต่งงาน 4 คน ก่อนหอบเงินสินสอดหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตามล่าสาวแสบ หลอกผู้ชายแต่งงานเดือนเดียว 4 คน ก่อนหอบเงินสินสอดหนี เหยื่อหวั่นถูกทำคุณไสย

(1 ก.ย.) หลังจากในโลกออนไลน์มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความเตือนภัย กรณีหญิงสาวคนหนึ่งก่อเหตุหลอกลวงผู้ชายไปแต่งงานด้วย ก่อนจะหอบสินสอดหลบหนี เดือนเดียวหลอกไปแล้วถึง 4 คน แต่ละรายเสียเงินและทรัพย์สินเป็นเงินหลักแสนบาท ก่อนที่ผู้เสียหายจะสืบสาวราวเรื่องกันจนพบว่า มีคนถูกหลอกเหมือนกัน จนรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้เสียหายได้

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งยังโพสต์ข้อความระบุว่า มีการตามหาตัวจนเจอหญิงรายนี้ และนำตัวไปดำเนินคดี ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รังสิต แต่สุดท้ายหญิงสาวก็หลบหนีออกจากโรงพักไปได้ โดยที่ยังไม่ทันได้ดำเนินคดี

ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง นายวิชิต (สงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกหลอกแต่งงาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนรู้จักกับหญิงสาวคนนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ปลายปี 2559 โดยฝ่ายหญิงเป็นคนแอดมาก่อน พร้อมชวนคุยในเชิงชู้สาว ตนก็คุยด้วย จนเรียกได้ว่าคบหาดูใจกันทางเฟซบุ๊กมาตลอดเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งช่วงเดือนเมษายน ก็มีการนัดเจอกันเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็ยังพาฝ่ายหญิงไปพบกับครอบครัวของตัวเอง ซึ่งหญิงสาวคนนี้ แม้จะไม่ใช่คนสวยมากมาย แต่ก็เป็นคนพูดจาดี เข้ากับคนง่าย และเข้ากับคนในครอบครัวตนได้เป็นอย่างดี

ตลอดเวลาที่คบกัน ตนจะรู้เรื่องส่วนตัวของฝ่ายหญิงน้อยมาก ทราบเพียงว่า ทำธุรกิจรับผลไม้จากต่างจังหวัด มาขายที่ตลาดไท รังสิต ซึ่งก็เป็นกิจการค่อนข้างใหญ่โต จนกระทั่งประมาณกลางเดือนเมษายน อีกฝ่ายมาชวนตนแต่งงาน โดยบอกว่า อยากจะมีคู่ชีวิต ที่ช่วยกันทำมาหากิน โดยจะให้ครอบครัวฝ่ายชาย ทำสวนผลไม้ ส่วนตัวเองจะมารับไปขาย เป็นธุรกิจครอบครัวร่วมกัน

นายวิชิตเล่าต่อว่า ครอบครัวของตนก็ทำการเกษตร ฐานะไม่ค่อยดี หากได้ร่วมทำธุรกิจกับอีกฝ่ายอย่างที่กล่าวอ้าง ก็คงทำให้ครอบครัวสบาย มีฐานะที่มั่นคงขึ้น พอไปปรึกษากับทางครอบครัวแล้วก็เห็นด้วย จึงตกลงแต่งงานกัน ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดเป็นเงิน 4 แสนบาท กับทองคำหนัก 4 บาท

ตอนนั้นตนบอกว่าทางบ้านไม่มีเงินขนาดนั้น อีกฝ่ายจึงบอกว่า ลดสินสอดให้เลือกแค่ 2 แสนบาท แต่ยังขอทองคำ 4 บาทเท่าเดิม พร้อมแนะนำให้ตนขายรถ เอาเงินไปซื้อทอง ตนก็หลงเชื่อ ขายรถเอาเงินมาซื้อทอง แล้วทางครอบครัวก็ไปกู้เงินธนาคารมาเป็นค่าสินสอด 2 แสนบาท

สุดท้ายได้แต่งงานกันช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไปจัดงานที่บ้านในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งฝ่ายหญิงอ้างว่าตัวเองซื้อเอาไว้ แต่วันงานมีญาติและแขกฝ่ายหญิงมาร่วมงานแค่ 7 คน แต่งงานกันได้วันเดียว หญิงสาวก็บอกให้ตนกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี โดยบอกว่า ให้เอาหน่อต้นกล้วยหอมทองกลับมาปลูก ทั้งหมด 2 พันหัว ถือเป็นการช่วยกันทำมาหากิน โดยฝ่ายหญิงรับปากว่าจะตามไปหาที่ จ.อุบลฯ ในภายหลัง

แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมตามมา โทรติดต่อก็ได้รับคำตอบบ่ายเบี่ยงต่างๆนานา จนในที่สุด ทางครอบครัวตนแอบไปสืบประวัติฝ่ายหญิง จนพบว่ามีคดีฉ้อโกงซื้อขายผลไม้ มีการฟ้องร้องในหลายพื้นที่ พร้อมกับไปพบว่า มีคนถูกหลอกให้มาแต่งงานด้วย ในลักษณะเหมือนกันทุกประการ อยู่ที่ จ.ยโสธร

ตอนนั้นหญิงสาวยังไม่รู้ว่าตนทราบความจริงแล้ว จึงร่วมมือกับผู้ชายชาวยโสธร ที่ถูกหลอกเหมือนกัน ทำทีเป็นนัดซื้อขายผลไม้กัน ก่อนจะนัดมาเจอกันที่ อ.แกลง จ.ระยอง พอเจอตัวก็เชิญอีกฝ่ายไปที่โรงพัก เพื่อดำเนินคดี ซึ่งก็ต้องไปที่โรงพักที่เกิดเหตุ ที่จ.ปทุมธานี แต่พอมาถึงโรงพัก ยังไม่ทันได้ลงบันทึกประจำวัน อีกฝ่ายอ้างว่าคลื่นไส้ ขอไปอาเจียน น้องสาวของตนก็เดินตามไป แต่ปรากฎว่าหญิงสาววิ่งหนีไปทางหลังโรงพัก และน่าจะมีรถมารอรับ สุดท้ายก็หนีหายไปในที่สุด

ในเวลาต่อมาสืบทราบเพิ่มเติมว่า นอกจากตนกับผู้ชายที่ ยโสธร ยังมีผู้ชายอีกหลายรายที่ถูกหลอกไปแต่งงาน อ้างว่าจะให้มาช่วยทำธุรกิจค้าส่งผลไม้ เหมือนกันอีกหลายราย ในเดือนพฤษภาคมเดือนเดียว หญิงสาวรายนี้แต่งงานกับผู้ชายถึง 4 คน ก่อนจะเชิดเงินสินสอดหนีหาย ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม ก็เพิ่งมีอีกหนึ่งรายเพิ่งถูกหลอกไปเป็นรายที่ 5

นายวิชิตบอกว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตนหลงเชื่อ และยอมทำตามที่หญิงสาวรายนี้พูดทุกอย่าง ตนเชื่อว่าถูกอีกฝ่ายทำไสยศาสตร์ ให้รักให้หลง จนไม่สามารถขัดอีกฝ่ายได้เลย จนกระทั่งล่าสุดไปทำพิธีล้างคุณไสยมาแล้ว ทำให้ตอนนี้ตนเห็นความจริงทุกอย่าง และต้องการจะเอาเรื่องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด ล่าสุดได้แจ้งความฐานฉ้อโกงไว้แล้ว ที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook