คนกรุงไร้สุข
ล็อกล้อ
ผลวิจัยเรื่องแนวโน้มดัชนีความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศ ประจำเดือนก.พ. ของศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) พบว่าค่าความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
จากช่วงปลายเดือนธ.ค.2551 ที่ได้ 6.81 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน มาอยู่ที่ 5.78 คะแนนในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ผลสำรวจเมื่อแยกตามภูมิภาค ก็พบว่าคนกรุงเทพฯ มีค่าความสุขมวลรวมต่ำสุดอยู่ที่ 5.22 คะแนน โดยคนภาคเหนือมีค่าความสุขสูงสุดอยู่ที่ 6.24 คะแนน
ศูนย์วิจัยความสุขชุมชนได้ตั้งข้อสังเกตจากคะแนนสำรวจที่ได้ โดยสิ่งที่น่าห่วงคือ การเมืองการปกครองและภาวะเศรษฐกิจกำลังเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมีความสุขน้อยที่สุด
เพราะคนไทยมีความสุขต่อการเมืองการปกครองระดับประเทศเพียง 4.53 คะแนน และความสุขต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพียง 3.95 คะแนนเท่านั้น
นอกจากนี้เมื่อศึกษาการนอนหลับของประชาชนในการวิจัยครั้งล่าสุด พบจำนวนคนนอนไม่หลับถึงนอนไม่หลับเลย เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 10.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 16.8
และคนที่นอนหลับได้ค่อนข้างสนิทหรือนอนหลับได้สนิทลดลงจากร้อยละ 79.7 มาอยู่ที่ร้อยละ 70.4
ถ้าศึกษาเปรียบเทียบระดับความสุขประชาชนในกลุ่มที่นอนไม่หลับกับกลุ่มนอนหลับสนิท พบว่าคนนอนไม่หลับมีความสุขอยู่ที่ 4.48 คะแนน ซึ่งมีคะแนนน้อยกว่ากลุ่มที่นอนหลับได้สนิทพบความสุขอยู่ที่ 6.20 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน
ตัวเลขนี้ก็ยิ่งสะท้อนความทุกข์ใจจนนอนไม่หลับของชาวบ้าน หรือชนชั้นผู้ถูกปกครองทั้งหลาย ที่ต้องทุกข์จากสารพัดปัญหาที่ชนชั้นผู้ปกครองก่อขึ้น
ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม สัมพันธ์และมีผลต่อกัน การเมืองไม่มั่นคง คนไม่กล้าลงทุน เศรษฐกิจก็มีปัญหา เศรษฐกิจแย่ปัญหายาเสพติด และคดีลักจี้ชิงปล้นก็เพิ่มขึ้น คนเบื่อหน่ายการเมืองความคิดของคนในสังคมแตกแยก การเมืองก็แตกแยก
แม้ปัญหาเหล่านี้จะเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการแก้ไข แต่กทม.จะปฏิเสธการดูแลชาวกรุงเทพฯก็คงไม่ได้
เมื่อมีปัญหาก็ต้องเร่งแก้ไข แค่เดินสายโชว์วาทะแก้ปัญหาไม่ได้แน่