ม.จีนสั่งเดลิเวอรีห้ามเข้า ร้านอาหารเอาโดรนบินส่งแทน

หลังจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนสั่งห้ามบริการเดลิเวอรีเข้ามาภายในบริเวณวิทยาลัย ร้านอาหารละแวกนั้นจึงหาวิธีใหม่ที่จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ นั่นก็คือ “จ้างโดรนแทนพนักงานส่งของ”

ตั้งแต่เปิดภาคการศึกษาใหม่เมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ วิทยาลัยศิลปะหลู่ซวิ่น เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ได้ออกกฎใหม่สั่งห้ามพนักงานส่งอาหารเข้ามาภายในวิทยาลัย

อย่างไรก็ดี กฎใหม่ข้อนี้ไม่อาจหยุดธุรกิจร้านไก่ทอดแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในละแวกวิทยาลัยได้

เจ้าของร้านอาหารดังกล่าวเป็นคู่รักวัยรุ่นซึ่งมีไอเดียว่าจะใช้โดรนของพวกเขาเองส่งอาหารแทน โดยผูกกล่องอาหารเข้ากับโดรนและควบคุมให้บินเข้าไปยังวิทยาลัย

พวกเขาโฆษณาผ่านแอพพลิเคชันสั่งอาหารว่า “ม.ศิลปะหลู่ซวิ่นไม่ให้เข้าเหรอ เราจะบินไปหาเอง!” ซึ่งการส่งอาหารด้วยโดรนนี้ไม่คิดค่าส่งเพิ่ม เจ้าของร้านบอกกับสื่อว่านักศึกษาให้การตอบกับบริการนี้ดีทีเดียว

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักศึกษาคนหนึ่งสังเกตเห็นโดรนที่มีถุงพลาสติกผูกติดอยู่บินเข้ามาในบริเวณหอพัก และถ่ายภาพโพสต์ลงอินเตอร์เน็ต กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์

ชาวเน็ตส่วนมากชื่อชมและสนับสนุนนวัตกรรมดังกล่าว บ้างก็ตั้งคำถามว่าโดรนดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่ เนื่องจากตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา รัฐบาลจีนออกข้อบังคับเรียกร้องให้โดรนเอกชนที่มีน้ำหนักมากว่า 250 กรัมต้องขึ้นทะเบียนด้วยชื่อจริง

ฝ่ายวิทยาลัยศิลปะหลู่ซวิ่นได้แจ้งความเรื่องนี้ต่อตำรวจแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน

เนื่องจากความกังวลต่อความปลอดภัยและคุณภาพอาหาร สถาบันหลายแห่งในจีนมีกฎห้ามพนักงานส่งอาหารเข้ามาในรั้วสถาบัน จากรายงานของสำนักข่าว Beijing Youth Daily เผยว่านับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา มีมหาวิทยาลัย 8 แห่งในกรุงปักกิ่งที่ออกกฎจำกัดจำนวนพนักงานส่งอาหารที่เข้ามาในมหาวิทยาลัย

ในขณะที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งเลือกใช้ประโยชน์ของการสั่งอาหารทางอินเตอร์เน็ตที่กำลังได้รับความนิยม อย่างเช่นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยซีเป่ย มณฑลส่านซี ซึ่งจัดตั้งบริการส่งอาหารของตัวเองขึ้นมาเสียเลย เพื่ออำนวจความสะดวกให้แก่นักศึกษา