เหยื่อสนามแบดฯ ถล่มช้ำใจ ถูกลอยแพ แทบไร้ที่ซุกหัวนอน

เหยื่อสนามแบดฯ ถล่มช้ำใจ ถูกลอยแพ แทบไร้ที่ซุกหัวนอน

เหยื่อสนามแบดฯ ถล่มช้ำใจ ถูกลอยแพ แทบไร้ที่ซุกหัวนอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านซอยเรวดีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสนามแบดมินตันถล่มพังเสียหาย ออกโรงเรียกร้องให้หน่วยงานช่วยเหลือ หลังไม่มีใครเหลียวแล ควักกระเป๋าตัวเองซ่อมบ้าน บางรายแทบไม่มีที่ซุกหัวนอน

เมื่อคืนวานนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวบ้านและความคืบหน้าในการรื้อถอนซากอาคารสนามแบดมินตัน ภายในซอยเรวดี 52 แยก 2 จ.นนทบุรี หลังพังถล่มเสียหายและสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง

โดยตรงจุดเกิดเหตุมีบ้านทาวส์เฮ้าส์จำนวน 5 หลังได้รับความเสียหายหนัก ส่วนอีกประมาณ 10 หลังได้รับความเสียหายหลังคารั่วและน้ำฝนตกใส่เฟอร์นิเจอร์เสียหาย หลังจากการสำรวจทั่วพื้นที่พบว่าแผ่นสังกะสีพัดกระจายเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ซอยเรวดี 55, 57 แยก 2 ไปจนถึงแยก 12 และซอยเรวดี 59

จากการเข้าพื้นที่ตรวจสอบที่ปากซอยเรวดี 55 และ 57 แยก 2 ติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ว่า "เขตอันตรายห้ามเข้า เทศบาลนครนนทบุรี" ที่บริเวณแยก 2 พบมีประชาชนนั่งจับกลุ่มอยู่บริเวณใกล้จุดที่บ้านเรือนเสียหาย เนื่องจากภายในบ้านยังมีทรัพย์สินมีค่าที่ยังไม่ได้ย้ายออก เกรงว่ามิจฉาชีพจะถือโอกาสเข้าไปลักทรัพย์ในช่วงนี้ จึงได้จัดเวรยามคอยดูไม่ให้พวกถือโอกาสเข้ามาก่อเหตุ

ส่วนสภาพภายในซอยมีการเก็บเศษสังกะสีออกจากพื้นผิวถนนไปหมดแล้ว ส่วนตรงจุดที่บ้านทั้ง 5 หลังยังไม่มีการรื้อถอนซากออกไป มีแผ่นสังกะสีขนาดใหญ่และโครงเหล็กทับตัวบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ด้านบนหลังคายังมีแผ่นสังกะสีค้างอยู่ในลักษณะว่าใกล้จะหล่นอีกหลายแผ่น

เมื่อสอบถามประชาชนที่จับกลุ่มเฝ้าบ้านเรือน พบว่าทั้งหมดมีความกังวลใจและขวัญผวาว่าถ้าเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอีก แผ่นสังกะสีและโครงเหล็กที่ค้างจะหล่นลงมาทับบ้านเรือนใกล้เคียงเสียหายมากกว่าเดิม เนื่องจากบ้านเรือนที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยเช่น หลังคารั่ว เฟอร์นิเจอร์เสียหาย ได้มีการนำช่างเข้ามาซ่อมแซมไปบ้างแล้วบางหลังโดยใช้เงินส่วนตัว เพราะต้องใช้อาศัยหลับนอน เกรงว่าฝนตกน้ำจะรั่วจากหลังคาลงมา

ขณะที่บางคนแจ้งว่าสนามแบดมินตันแห่งนี้น่าจะก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เพราะก่อนหน้านี้เมื่อมีลมพัดปดติ แผ่นสังกะสีจะสั่นกระพืออย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านยังเคยมีการพูดคุยกันว่าสักวันมันอาจจะพังลงมาแล้วก็เกิดเหตุการณ์นั้นจริงๆ

น.ส.นปภา อายุ 46 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุทราบว่าบ้านของตนเสียหายนิดหน่อย แต่พอกลับมาดูสภาพบ้านก็ตกใจ ตอนนี้บ้านที่เสียหายหนัก 5 หลังย้ายออกไปหมดแล้ว ส่วนบ้านตนหลังคาทะลุ 2-3 แผ่น จานดาวเทียมหล่น ราวตากผ้า เจ้าของสนามเข้ามาแจ้งแล้วแต่ต้องรอไปก่อน

บ้านบางหลังรอไม่ได้เพราะต้องอยู่อาศัย ตนเปลี่ยนจานดาวเทียมไปแล้ว 3,000 บาทยังไม่รู้จะไปเบิกค่าเสียหายกับใคร ตอนนี้ยังรู้สึกกลัวเพราะว่าซากหลังคายังอยู่ ไม่ได้รื้อออกไปเกรงว่าหากฝนตกจะไถลลงมาบ้านซ้ำอีก

ขณะที่ นายประดิษฐ์ หนึ่งในผู้เสียหายเจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบหนัก จนอยู่อาศัยไม่ได้ ล่าสุดได้เข้ามาขนย้ายสิ่งของจำเป็นในช่วงมืดค่ำ โดยมีชาวบ้านใกล้เคียงเข้าช่วยเหลืออย่างทุลักทุเล ระบุว่า ตอนนี้ไปอาศัยอยู่ที่อื่น เป็นที่พักที่ทางเจ้าของสนามแบดฯ จัดหาให้ ตอนนี้ลำบากเ เหมือนมันไม่มีที่ซุกหัวนอน

ตนเห็นมีคนมาตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนแต่ยังไม่เห็นสรุปอะไร ตนไม่ทราบว่าทางการจังหวัดจะช่วยเหลืออะไรไดบ้าง ในความเห็นของตนปกติน่าจะมีงบช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น หน่วยงานทั้งหลายต้องเป็นผู้ประสานงานให้ผู้เดือดร้อน แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่มีใครมาดูแล ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง ตนมองว่าไม่ถูกต้องเลยสักนิด ควรมีการเข้ามาดูแลหลังจากนั้นไปไล่บี้กับผู้รับผิดชอบเอา

นายประดิษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนอยากขอให้ทางหน่วยงามที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาด้วย วันนี้เจ้าของสนามแบดฯ เข้ามาแต่ยังไม่เห็นว่าอะไร ตนไม่รู้ว่าจะต้องไปนอนอยู่นอกบ้านได้อีกนานแค่ไหน อยากรู้คำตอบเร็วๆ ประชาชนหวังพึ่งพาท่าน ไม่ใช่ปล่อยลอยแพพวกเรา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook