ไขปม ! คดีสาวหายตัวปริศนา ครอบครัวเชื่อมีความลับรอพิสูจน์ใน “โน๊ตบุ๊ค”

ไขปม ! คดีสาวหายตัวปริศนา ครอบครัวเชื่อมีความลับรอพิสูจน์ใน “โน๊ตบุ๊ค”

ไขปม ! คดีสาวหายตัวปริศนา ครอบครัวเชื่อมีความลับรอพิสูจน์ใน “โน๊ตบุ๊ค”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกหนึ่งคดีที่เกี่ยวกับการหายตัวไปนานกว่า 2 ปี ทำให้พ่อและแม่ของ “นันทิยา” หรือ “ออย” เดินทางเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามอีกครั้งในวันนี้ หลังติดต่อลูกสาวไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2558 จนทำให้สงสัยว่าลูกสาวถูกฆาตกรรม เนื่องจากเคยใช้ชีวิตอยู่กับอดีตสามีที่กลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพตำรวจอิสราเอล แต่ตำรวจได้ให้คำตอบว่า คดีนี้มาถึงทางตัน แต่ก็ยังมีหลายเบาะแสที่ครอบครัวยังติดใจว่าทำไมคดีถึงไปต่อไม่ได้

 “อนันต์” พ่อผู้สูญหายเปิดเผยว่า เชื่อว่าคดีนี้ยังไม่ตันเหมือนที่ตำรวจบอกยังมีเบาะแสที่อยู่ในโน๊ตบุ๊คเพราะหลานชาย ซึ่งเป็นลูกของลูกสาว ที่โดนคดีพร้อมกับอดีตสามีด้วย บอกว่า อยากรู้อะไรให้ไปดูในนั้น แต่ติดที่ว่าเป็นภาษาอิสราเอล และมีการใส่รหัสไว้ ซึ่งจะมีภาพอยู่ในนั้นจะได้รู้ว่าภายในบ้านมีอะไรบ้าง

ซึ่งกองปราบฯ บอกว่าโน๊ตบุ๊คนั้นศาลได้ยึดไป ส่วนครอบครัวนั้นไม่ค่อยทราบข้อมูลเกี่ยวกับอดีตสามีเท่านั้น แต่ตั้งแต่คบกันสถานะการเงินไม่ได้เปลี่ยนแปลง เชื่อว่าการที่ลูกสาวหายไปน่าจะกุมความลับ

ในขณะที่หลานให้ข้อมูลว่าถ้าอยากรู้ว่าแม่หายไปไหนให้ไปดูในโน๊ตบุ๊ค และให้รหัสกับพ่อของผู้สูญหายให้ไปดูจากกล้องที่อยู่ในบ้าน ซึ่งเอารหัสที่หลานให้มาให้ตำรวจไปแล้ว จนวันนี้ทราบว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีเปิดโน๊ตบุ๊คเลย และจากที่ได้ข้อมูลของหลานว่าลูกสาวมีการโกนหัวเพราะบอกว่าอดีตสามีจะพาไปเข้าลัทธิของศาสนาเขาแล้วก็หายไป

ขณะที่ผู้เป็น “นภา” แม่ของผู้สูญหาย บอกว่า ก่อนหายตัวไปลูกสาวเคยได้บอกเมื่อปี 2556 ว่า มีตำรวจใหญ่คนหนึ่งจะโอนเงินให้อดีตสามีของลูกสาว เพื่อที่จะให้ซื้อบ้าน ตัวแม่เองก็ไม่ทราบว่า อดีตสามีเป็นคนอย่างไร

ทราบแต่ว่าเจอกันที่แถวข้าวสารเมื่อปี 2540 ก็ราวๆ 20 ปีมาแล้ว แต่ไม่ค่อยพามาเจอ จนอดีตสามีไปโดนจับคดีฆ่าตำรวจอิสราเอล ในขณะนั้นลูกสาวก็หายตัวไปแล้ว และที่ทราบเวลาลูกสาวเรียกชื่อก็ไม่ได้เรียกว่าซีมอน อย่างที่ออกข่าว

ด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า คดีการหายหัวของบุคคลในรายนี้ต่างจากรายอื่นๆที่เคยเจอ มันมีความซับซ้อนและมีความลับในความลับซ่อนอยู่ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรเลย เนื่องจากอดีตสามีที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ฆ่าอำพรางนั้น เป็นชาวต่างชาติที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี และคิดว่ามีความลับอีกเยอะ

แต่จากการสอบถามตำรวจที่กองปราบในวันนี้นั้น ก็ได้รับคำตอบว่า เขาก็ทำเต็มที่แล้ว ทั้งการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ การค้นบ้าน จนมาถึงทางตันแล้ว แต่เมื่อถามว่าได้ไปสืบค้นเรื่องอื่นๆหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่ได้ทำ จะบอกว่าตันไม่ได้ เชื่อว่าต้องมีคนเก่งที่ช่วยไขคดีอีก และสงสัยว่าทำไมโน๊ตบุ๊คยังไม่ถูกเปิดตามที่ลูกชายของผู้สูญหายได้บอกกับผู้เป็นตาไว้ และให้รหัสไปแล้ว

“จากข้อมูลที่มีอยู่จึงทำให้มีการปะติดปะต่อข้อมูลว่าซีมอน บิตั้น ชาวอิสราเอล อดีตสามีเขามีการเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าหั่นศพแล้วเมื่อปี 2542 แต่ตอนนั้นชนะคดี และมีคดีฆ่าโบกปูนตำรวจอิสราเอล ปี 2559 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จนมาถึงการหายตัวไปของนันทิยา หรือ คุณออย ที่อยู่ๆก็หายตัวไป

และระหว่างที่หายไปก็มีการบอกครอบครัวว่าคุณออย ติดคุกอยู่ที่ลาว แต่ครอบครัวก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเพราะรอซีมอนพาไปเยี่ยม และย้ายบ้านหนี ก่อนจะไปมีคดีฆ่าหั่นศพ และก็มีการบอกผู้หญิงคนใหม่ว่ามีคุณออยนั้นเป็นมะเร็งเสียชีวิตไปแล้ว ยังเชื่อว่าคดีนี้ยังมีเบาะแสที่สามารถตามได้อยู่

และกรณีที่ครอบครัวบอกว่ามีการตำรวจให้เงินกับซีมอนนั้นอาจจะทำงานบางอย่างที่เป็นความลับกันอยู่ แล้วคุณออยอาจจะไปรู้ความลับของเขา ก้เลยถูกทำให้พูดไม่ได้จากการที่คุยกับตำรวจเขาไม่ได้ตันเรื่องนี้แต่ไปตันที่ หากตายแล้วศพจะอยู่ตรงไหน และเขาก็คิดว่ามีโอกาสห้าสิบห้าสิบที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่”  ทนายรณณรงค์ วิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้รับ

หลังจากนี้ ทนายรณณรงค์ บอกว่า จะต้องหาทางในการเปิดโน๊ตบุ๊คให้ได้ เพื่อนำความลับที่ลูกชายเขาว่ามีอยู่ในโน๊ตบุ๊คออกมา เพราะลูกชายของผู้สูญหายได้มีการต่อรองให้ประกันตัวเขาออกมาเพื่อไขความลับนี้ ส่วนตัวก็ยังสงสัยบ้านหลังนั้นว่ามีอะไรซ่อนอยู่อีกไหม

ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวนี้หลังจากนี้จะพาครอบครัวของนางสาวนันทิยาเข้าพบพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยเหลืออีกทาง และขอเปลี่ยนชุดสืบสวนสอบสวนใหม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook