เสี่ยทำทองคำ 20 บาทตกเขื่อน งมหา 6 วันเจอจมน้ำลึก 70 เมตร
เสี่ยเจ้าของกระชังปลาพาครอบครัวพักแพเขื่อนศรีนครินทร์ ทำทองหนักกว่า 20 บาท หล่นน้ำ ทีมดำน้ำสุดแกร่งงม 6 วัน จนเจอทองจมอยู่ลึกกว่า 70 เมตร
(20 ก.ย.) มีรายงานว่า นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 นำทีมค้นหาแหวนและสร้อยคอทองคำที่นักท่องเที่ยวทำหล่นลงไปภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ พื้นที่ หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยจุดเกิดเหตุอยู่หน้าแพพักชื่อดังแห่งหนึ่งบริเวณเกาะกลางน้ำ และได้พบกับนายสุริยะ อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวที่ทำทรัพย์สินหล่นหาย พร้อมครอบครัวยืนรออยู่ด้วยอาการตกใจ จึงได้สอบถามรายละเอียดเพื่อจะได้วางแผนในการค้นหา เนื่องจากจุดที่ทองคำตกลงไปนั้นทุกคนต่างทราบกันดีว่าน้ำค่อนข้างลึก
นายเฉลิมพนธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีก 5 นาย การค้นหาเริ่มต้นช่วงเย็นของวันที่ 15 กันยายน จนถึงวันที่ 19 กันยายน ดำวันละหลายรอบแต่ก็ไม่พบ กระทั่งช่วงสายของวันที่ 20 กันยายน จึงได้ตัดสินใจช่วยกันค้นหาอีกครั้ง ปรากฏว่าพบสร้อยคอทองคำรวมทั้งแหวนทองทั้งหมดอยู่ในถุงพลาสติกลึกจากผิวน้ำลงไปประมาณ 70-80 เมตร และอยู่ห่างจากจุดที่ตกประมาณ 10 เมตร จึงรีบนำขึ้นมา เมื่อครอบครัวของนายสุริยะเห็นต่างแสดงอาการตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เริ่มหมดหวังไปแล้ว
ทั้งนี้ ด้านนายสุริยะ เจ้าของทอง ได้เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่แพดังกล่าวทั้งหมด 5 คน ก่อนเกิดเหตุได้ชวนกันลงไปว่ายน้ำเล่นที่หน้าแพ จึงได้นำสร้อยคอและแหวนทองคำของแต่ละคนมารวมกันใส่ถุงพลาสติกเอาไว้ และระหว่างที่กำลังยื่นถุงพลาสติกให้แม่ จู่ๆ รู้สึกถูกกระแสไฟฟ้าสถิตย์ช็อตเข้าที่มือ จนทำถุงพลาสติกหล่นน้ำไป
สำหรับสร้อยคอและแหวนทองมีน้ำหนักรวมกันมากกว่า 20 บาท ราคารวมกันประมาณเกือบ 500,000 บาท ทางนายสุริยะเผยว่าได้มอบสินน้ำใจให้เจ้าหน้าที่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่รับ ยิ่งทำให้ครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ นายเฉลิมพนธ์ เผยผ่าน เฟซบุ๊ก เฉลิมพนธ์ ใหญ่ หงษ์ยนต์ ด้วยว่า หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุทันทีระยะทาง 150 กม. ไปถึงรีสอร์ทก็ต้องนั่งเรือไปอีก 20 นาที ถึงที่หมายเกือบมืดแล้ว วางแผนกับลูกน้องว่าขอลงคนเดียวก่อนแล้วค่อยผลัดกันลงค้นหา สภาพใต้น้ำเป็นภูเขาชันเกือบ 90 องศา ความลึกถึงตีนเขาไม่ต่ำกว่า90 ม. การมองเห็นต้องใช้ไฟฉายเท่านั้น น้ำเย็นจัด มีต้นไม้ใหญ่และกอรวกจำนวนมาก ลงค้นหาจนถึงอีกวันก็ยังไม่พบ
มีคนไปดูเจ้าเข้าทรงว่านักประดาน้ำเจอแล้วเอาทองไป ตนได้ยินก็เลยบอกว่าพวกเราไม่เคยเป็นเช่นนั้นถ้าเจอของต้องคืนเจ้าของทุกครั้ง ขอลงพิสูจน์ดูอีกครั้ง ทางเจ้าของก็เข้าใจและไว้ใจ ตนจึงบอกว่าจะพยายามหาให้พบ จะได้ไม่ต้องตกเป็นจำเลยของคำพูดของคนบางคน แล้วสุดท้ายก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทรัพย์สินไม่ว่ามันจะมีค่ามากมายเท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถทำให้พวกเรามีความโลภที่จะคิดเอาของผู้เสียหา มาเป็นของพวกเราเลย ถึงทรัพย์สินที่หายไปมันจะมีค่ามากมายเท่าไหร่ พวกเราไม่เคยคิด แค่คิดเป็นอย่างเดียวว่าจะต้องพยายามเอาของที่หายไปขึ้นมาแล้วส่งคืนเจ้าของให้จงได้ แม้จะเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม แค่นี้พวกเราก็ภูมิใจแล้วที่จะทำอะไรดีๆเพื่อสังคมและประเทศของเราได้บ้าง