พบพระโบราณขนาดใหญ่ซุกใต้ดิน ดวงตาเป็นอัญมณี

พบพระโบราณขนาดใหญ่ซุกใต้ดิน ดวงตาเป็นอัญมณี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ที่วัดบุญกันนาวาส ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดเก่าสร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและตั้งติดแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ขณะกำลังมีการปรับปรุงดีดยกระดับพระอุโบสถเก่าของวัดให้สูงพ้นน้ำท่วม โดยให้สูงจากเดิมอีก 2.5 เมตร พบว่า เกิดเหตุการณ์กรุแตกและพบพระพุทธรูปเก่าแก่ โดยมีประชาชาชนจำนวนมากเข้าตรวจสอบ ทั้งนี้ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา

พร้อมด้วย นายวิทิต นายอำเภอบางบาล , นักโบราณคดีจากกรมศิลปากร เข้าร่วมตรวจสอบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ปรับปรุงพระอุโบสถได้เริ่มดำเนินการขุดฐานล่างของพระอุโบสถขนาดความกว้าง 3 วา 3 ศอก และ ยาว 10 วา 3 ศอก เพื่อขุดให้ฐานคอคานดินของพระอุโบสถโผล่และจะได้ตัดฐานพระอุโบสถให้ขาดจากคอคานดิน เพื่อยกพระอุโบสถทั้งหลังขึ้น โดยดำเนินการมาได้ 3 เดือนแล้ว ผลงานเดินหน้าตามกำหนด โดยในวันนี้ถึงขั้นตอนที่จะต้องลงไปขุดให้ฐานองค์ชุกชีของพระประธานในพระอุโบสถ เมื่อขุดลงไปพบว่า ที่ด้านล่างของฐานชุกชีในพระอุโบสถ กลับพบพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ถูกดินฝังไว้ใต้ฐานชุกชีจำนวน 1 องค์ เบื้องต้นเป็นพระโบราณ ด้านนอกเป็นเนื้อปูนปั้น ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 35 นิ้ว สูง 52 นิ้ว สภาพสมบูรณ์สวยงาม และใต้ดินใกล้กันยังพบกระปุกขนาดเล็ก 1 กระปุก ด้วยในมีพระเครื่องพิมพ์พระสมเด็จ ด้วยในมีพระประมาณ 30 องค์ โดยในส่วนของพระเครื่องได้นำเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟของอำเภอบางบาล ขณะที่พระองค์ใหญ่ที่พบยังไม่สามารถนำขึ้นมาจากใต้ดินได้ เพราะต้องการการพิสูจน์อย่างละเอียดของนักโบราณคดีของกรมศิลปากร

นายเอวยการสำนักโบราณคดีที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พระอุโบสถแห่งนี้สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่ก็ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง ในหลายยุคหลายสมัย โดยพระพุทธรูปที่พบ เป็นพระปูนปั้น ด้านในเป็นแกนอิฐ เชื่อว่า จะสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในช่วงการปฏิสังขรณ์ยุคใดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า อาจเป็นช่วงยุครัชกาลที่ 4 -5 หรือก่อนหน้านั้น แต่ก็เชื่อว่า พระองค์นี้จะมีอายุในช่วงประมาณ 150-200 ปี เป็นอย่างน้อย ส่วนการบูรณะพระอุโบสถก็ต้องบูรณะต่อไปและคงจะต้องยกพระองค์ดังกล่าวขึ้นจากใต้ดินด้วยเช่นกัน

ด้านพระครูปลัดทองหล่อ โชติโก อายุ 62 ปี เจ้าอาวาสวัดบุญกันนาวาส กล่าวว่า เมื่อปลายปี 51 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์พระทานทอดผ้าพระกฐิน และทรงดำริให้ยกพระอุโบสถทั้งหลังให้พ้นน้ำท่วม เพราะในแต่ละปีน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะท่วมที่วัดแห่งนี้สูงประมาณ 2 เมตร แม้แต้พระอุโบสถก็ถูกน้ำท่วม ซึ่งการขุดค้นและบูรณะได้รายงานให้ คุณหญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ ผู้จัดการและอาจารย์ใหญ่โรงเรียนจิตรดา เพื่อกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทราบมาโดยตลอดถึงความคืบหน้าการก่อสร้าง โดยในการก่อสร้างเฉพาะค่ายกดีดพระอุโบสถจะใช้งบประมาณกว่า 4 ล้านบาท และการบูรณะพระอุโบสถทั้งหลักอีกไม่ต่ำกว่า 4 ล้านแน่นอน ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นมีเงินที่ได้รับพระราชทานไว้ 6 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินบริจาคของประชาชน คาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนในการบูรณะ แต่ต้องเสร็จก่อนฤดูน้ำหลากในปลายปี 52 นี้แน่นอน

ขณะที่ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การนพบพระขนาดใหญ่ซึ่งเป็นพระโบราณใต้ดินที่อยู่ใต้ฐานชุกชีนี้ ถือเป็นเรื่องสิริมงคล ซึ่งชาวบ้านที่มาพบต่างเรียกกันว่า หลวงพ่อเพชร เพราะดวงตาของพระพุทธรูปที่พบมีลักษณะเป็นอัญมณี เบื้องต้นประสานงานให้ตำรวจและฝ่ายปกครอง ในเขตอำเภอบางบาล กำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันมาร่วมดูแลรักษาร่วมกับประชาชน เพราะเป็นสมบัติของชุมชน เป็นสมบัติจของชาติ โดยทางจังหวัดจะได้ทำหนังสือรายงานเหตุการณ์ต่อสำนักงานราชเลขาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และรายงานต่อคุณหญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ ผู้จัดการและอาจารย์ใหญ่โรงเรียนจิตรดา โดยพระองค์ดังกล่าวนี้จะต้องขุดขึ้นมาและให้นักวิชาการของกรมศิลปากรศึกษาพร้อมบูรณะให้คงสภาพเดิมมากที่สุด และจะได้เป็นพระที่ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชาต่อไป

สำหรับวัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และล่าสุด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์พระทานทอดผ้าพระกฐินเมื่อปลายปี 51 และทรงดำริให้บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถให้สูงพ้นน้ำท่วม โดยพระราชทานจากการทอดผ้าพระกฐินจำนวน 6 ล้านบาทในเบื้องต้น และปัจจุบันมีประชาชนบริจาคเพิ่มสมทบอีกเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นการร่วมทำบุญครั้งใหญ่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook