ทำแผนหนุ่มฆ่าข่มขืนสาวปวช.หวิดถูกตื้บ

ทำแผนหนุ่มฆ่าข่มขืนสาวปวช.หวิดถูกตื้บ

ทำแผนหนุ่มฆ่าข่มขืนสาวปวช.หวิดถูกตื้บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจคุมตัวหนุ่มข่มขืนฆ่าสาวปวช.ทำแผน ชาวบ้านกว่า 1 พันคน เตรียมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องคุมกำลังเข้มรอดปลอดภัย สารภาพทุกข้อหา เผยเคยจะข่มขืนเมียเพื่อนเลยโดนไล่ออกมาบ้านท่าข้าม


เมื่อเวลา10.00 น.วันที่ 17 มี.ค. ที่ สภ.พานทอง พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ณพล นามนารถ ผกก.สภ.พานทอง พ.ต.ท.สมนึก หาญตา รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.จตุวัฒน์ กิ่วบัวหลวง รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.เชาว์ ต่ายใหญ่จีด สว.สส.แถลงข่าวการจับกุมตัว นายมานิตย์ รุ่งเรือง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 5 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.จาฏพัจน์ โวหารอุดม อายุ 16 ปี และ ทำร้ายร่างกาย ด.ญ.สุวนันท์ โวหารอุดม อายุ 13 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัสทางสมอง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี อาการเป็นตายเท่ากัน โดยนายมานิตย์ ได้ใช้กระต่ายขูดมะพร้าว ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งขนาดกว้าง 16 เซ็นติเมตร ยาว 49 เซ็นติเมตร กระหน่ำตีที่บริเวณศีรษะและใบหน้า จนแตกเป็นเสี่ยงๆ ขณะจะเข้าไปข่มขืนหญิงสาวทั้ง 2 คน แต่ขัดขืน

หลังก่อเหตุนายมานิตย์ ได้หลบหนีโดยขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิ๊ก สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซ้อน นางเกศสุดา บุญเที่ยง ภรรยาท้องแก่ 5 เดือน ไปหลบซ่อนตัวโรงแรมแสนสุข ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง แต่พ่อของนางเกศสุดา ทราบข่าว จึงได้พยายามถ่วงเวลาไว้ จนกระทั่งตำรวจได้จับกุมตัวได้ดังกล่าว

โดยตำรวจได้ตั้งข้อหา พยายามข่มขืนกระทำชำเรา จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น ซึ่งผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 มาตรา 277 ทวิ (1) (2), มาตรา 80 มาตรา 288 ซึ่งความผิดดังกล่าวอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

สำหรับพฤติการณ์ดังกล่าวจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.จาฏพัจน์ และด.ญ.สุวนันท์ ได้นอนหลับบ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ลำพังเพียง 2 คน โดยไม่มีใครอยู่ในบ้าน ส่วนนายสวาท และนางประไพ บิดามารดาได้ออกไปลากปลาในพื้นที่ อ.พานทอง

โดยนายมานิตย์ได้มาขออาศัยอยู่กับนายธรรมศักดิ์ จอนเจริญ อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 3 ต.พานทอง ซึ่งเป็นญาติของ น.ส.จาฏพัจน์ ประมาณ 2 สัปดาห์ และได้แอบมอง ด.ญ.สุวนันท์ ไว้นานแล้ว เนื่องจากรูปร่างอวบ เมื่อได้จังหวะจึงได้แอบเข้ามาในบ้าน และงัดหน้าต่างด้านหลัง ซึ่งติดกับห้องครัวและเข้าไปในห้องของหญิงสาว

จากนั้นได้ถอดเสื้อผ้าของ ด.ญ.สุวนันท์ จนหมดและพยายามจะข่มขืน แต่ไม่สามารถข่มขืนได้ จึงได้ไปถอดกางเกงของ น.ส.จาฏพัจน์ เพื่อข่มขืนอีก แต่รู้สึกตัวเสียก่อน จึงร้องให้คนช่วยเหลือนายมานิตย์ จึงได้ใช้กระต่ายขูดมะพร้าวกระหน่ำตีจนเสียชีวิต เมื่อ ด.ญ.สุวนันท์ ตื่นขึ้นมาอีก จึงได้ใช้กระต่ายขูดมะพร้าวกระหน่ำตีอีกจนได้รับบาดเจ็บ และหลบหนีไปจนถูกจับกุมได้ดังกล่าว

ต่อมาตำรวจได้ควบคุมตัวนายมานิตย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนเตรียมรุมประชาทัณฑ์ประมาณ 1,000 คน รายล้อมรอบบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันความปลอดภัยตำรวจได้ให้นายมานิตย์ใส่หมวกกันน็อค และเสื้อกันกระสุน

หลังจากทำแผนเสร็จ ประชาชนลุกฮือจะเข้าประชาทัณฑ์ โชคดีที่ตำรวจได้ล่อหลอก จนกระทั่งนำตัวขึ้นรถตู้ออกจากที่เกิดเหตุได้ มีเพียงการขว้างปาก้อนหินใส่คนร้ายเท่านั้น

นายมานิตย์ รุ่งเรือง ผู้ต้องหากล่าวว่า ตนเคยต้องโทษคดีเสพยาบ้า และถูกนำตัวมาบำบัด โดยก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าขาวเข้าไป จึงเกิดอาการคึก จึงได้ลงมือจะข่มขืนหญิงสาวทั้ง 2 คน

พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภ.2 กล่าวว่า การจับกุมคนร้ายรายนี้ได้รวดเร็ว ต้องขอบคุณพ่อตาของคนร้ายที่เป็นตำรวจ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และแจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ถือว่าเป็นผลงานของตำรวจทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามชาวบ้าน  ที่มาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บอกว่า นายมานิตย์ เคยก่อเหตุพยายามข่มขืนเมียเพื่อน ที่บ้านท่าข้าม จ.ฉะเชิงเทรา จนกระทั่งถูกไล่ออกจากพื้นที่ ก่อนจะมาอาศัยอยู่กับนายธรรมศักดิ์ ประมาณ 2สัปดหา ก่อนจะก่อเหตุซ้ำดังกล่าว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook