​ผัวเมียท้าพิสูจน์ ชื้อลอตเตอรี่มาเอง ถูกรางวัลได้ 18 ล้าน

​ผัวเมียท้าพิสูจน์ ชื้อลอตเตอรี่มาเอง ถูกรางวัลได้ 18 ล้าน

​ผัวเมียท้าพิสูจน์ ชื้อลอตเตอรี่มาเอง ถูกรางวัลได้ 18 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่นายพันธุ์ศักดิ์ อายุ 31 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ว่าถูกขโมยลอตเตอรี่ที่ตนเองถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 หมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ส.ค.60

และต่อมาทราบว่ามีคนนำลอตเตอรี่ดังกล่าวไปขึ้นเงินแล้วเมื่อวันที่ 23 - 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นสามีภรรยา ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าเงินรางวัล 12 ล้าน ถูกแยกเป็น 2 บัญชี บัญชีละ 6 ล้านบาท และเงินยังอยู่ครบถ้วนทั้ง 12 ล้านบาท ยังไม่มีเบิกถอนออกจากบัญชี

ล่าสุด (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายวิทยา อายุ 44 ปี และ นางขวัญศิริ สามีภรรยา บุคคลที่ถูกระบุว่านำสลากที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงิน ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ไพศาล สุวรรณทา ผู้กำกับการสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับมอบหมายจากภูธรจังหวัด ให้มาดูแลคดี และพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

พร้อมทั้งได้นำรูปถ่ายลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นลอตเตอรี่แบบเก่างวดสุดท้าย มาเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ว่าตนเองเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ส.ค. 60 หมายเลข 715431 จริง และถูกจำนวน 3 คู่เป็นเงิน 18 ล้านบาท ไม่ใช่ 2 คู่ 12 ล้านบาท

นายวิทยา ระบุอีกว่า ตนมีอาชีพรับเหมาติดตั้งกระจกและอะลูมิเนียม ช่วงเดือนสิงหาคม ได้มารับเหมางานที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ก็จะเดินทางไปกลับระหว่างบุรีรัมย์- ร้อยเอ็ด และเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปกับเจ้าของโรงน้ำแข็ง อ.โนนดินแดง ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างติดตั้งกระจกและอลูมิเนียม เพื่อไปหาซื้อวัสดุก่อสร้างใน อ.นางรอง 

จากนั้นก็พากันแวะไปรับประทานอาหารที่ร้านตำแหลกในตัวอำเภอ ตรงข้าม รพ.นางรอง ขณะนั้นมีพ่อค้ามาเดินเร่ขายลอตเตอรี่ ตนเห็นว่ามีเลขท้าย 31 ตรงกับป้ายทะเบียนรถของหลวงปู่หมุน วัดป่าหนองหล่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่ตนเองพึ่งไปกราบขอพรมา จึงซื้อไว้จำนวน 3 คู่ 

กระทั่งวันที่ 16 ส.ค.60 หลังออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เวลาประมาณ 16.00 น. จึงได้ตรวจรางวัลทางอินเตอร์เน็ต จากโทรศัพท์มือถือ ก็ทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 3 คู่ ได้เงินรางวัล 18 ล้านบาท แต่ไม่ได้ไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพราะไม่อยากเป็นข่าวเนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย

จากนั้นวันที่ 23 ส.ค.60 ตนจึงได้ไปขึ้นเงินที่กองสลาก เพียง 2 คู่ เป็นเงิน 12 ล้านบาท ส่วนอีกใบให้ภรรยา ที่เป็นผู้ดูแลร้านรับติดตั้งกระจกและอะลูมิเนียมอยู่ที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นำไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท ในวันที่ 24 ส.ค. ที่แยกกันไปคนละวัน เพราะภรรยามีนัดพาพ่อไปหาหมอในวันที่ 24 ส.ค.พอดี 

และหลังจากนั้น ตนยังเดินทางไปทำงานที่ อ.โนนดินแดง และแวะซื้อลอตเตอรี่ กับพ่อค้าเร่คนเดิมอีก 5 ใบ เพราะหวังว่าจะดวงเฮงอีก ซึ่งพ่อค้าก็เหมือนจะจำหน้าได้ จึงถามว่าเฮียใช่ไหมที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 สิงหาคม 3 ใบ จึงตอบไปว่า ไม่ใช่ เพราะไม่อยากให้ใครรู้เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย

แต่ขอยืนยันว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลงวดดังกล่าวเป็นของตนที่ซื้อเอง และไม่เคยรู้จักกับนายพันธุ์ศักดิ์ ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่แจ้งความอ้างว่าสลากฯหาย รวมทั้งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนขโมยสลากฯ ก็ยืนยันว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า 

กรณีที่เกิดขึ้นอยากฝากสังคมและผู้ที่ติดตามข่าวสาร ขอให้ฟังข้อมูลให้รอบด้านอย่าพึ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูก  เพราะหลังจากมีการนำเสนอข่าวในทำนองที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ตนเองและครอบครัวได้รับความเสียหาย ซึ่งตนพร้อมพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook