เปิดใจ ชายในคลิปซัดนัวแท็กซี่พัทยา สะเทือนใจ ถูกด่า "ไอ้คนขายชาติ"

เปิดใจ ชายในคลิปซัดนัวแท็กซี่พัทยา สะเทือนใจ ถูกด่า "ไอ้คนขายชาติ"

เปิดใจ ชายในคลิปซัดนัวแท็กซี่พัทยา สะเทือนใจ ถูกด่า "ไอ้คนขายชาติ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ก.ย.) นายวุฒิชัย อายุ 51 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง นำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่กลุ่มแท็กซี่บันทึกแล้วมีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกินความเป็นจริง และมีการนำไปเผยแพร่ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทำให้ตนเองและครอบครัวเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง และรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา

โดย นายวุฒิชัย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องตนเองได้รับการติดต่อจากหลายฝ่ายเพื่อให้เข้าพบ แต่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บและหวาดกลัวจึงยังไม่สามารถเข้าพบทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึงจะออกมาชี้แจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชนได้

หลังจากที่รักษาตัวหายดีแล้วตนเองก็ได้เดินทางไปชำระค่าปรับในข้อหาใช้รถโดยผิดประเภท ที่กรมขนส่งทางบกจังหวัดชลบุรี เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท แต่ตนเองเป็นแกร็บคาร์ไม่ใช่อูเบอร์ ซึ่งแอปพลิเคชั่นแกร็บคาร์ก็มีกลุ่มแท็กซี่ใช้กันเป็นจำนวนมากเช่นกัน

นายวุฒิชัย กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทะเลาะวิวาท ที่ได้มีข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้นเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่ก็จะมีการแจ้งความกลับ เนื่องจากคู่กรณีกลุ่มแท็กซี่ ได้นำคลิปวีดีโอไปเผยแพร่ ตามเพจต่างๆ จนตนเองและครอบครัวได้รับผลกระทบ เสื่อมเสียชื่อเสียงและอับอาย

เพราะคู่กรณีได้ใช้ถ่อยคำที่รุนแรงเกินกว่าที่ตนเองจะรับได้ พร้อมทั้งเปิดคลิปดังกล่าวให้ดู ซึ่งถ่ายในคลิปดังกล่าวมีการขับไล่ ตะโกนประจานต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก และถ่อยคำที่ตนเองรู้สึกเสียใจมากที่สุดคือว่าตนเองเป็น "ไอ้คนขายชาติ" ซึ่งตนเองคิดว่าตนเองทำผิดถึงขนาดนั้นหรือ จึงต้องแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหมิ่นประมาท และพรบ.คอมพิวเตอร์

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นตนเองไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น เพียงแต่จะลงไปทวงแท็บเล็ตคืนเท่านั้น ซึ่งก่อนเกิดเหตุนักท่องเที่ยวได้ติดต่อมาให้ไปรับ ซึ่งตนเองก็ทำบริษัททัวร์อยู่ แต่ก็เลือกสถานที่รับ-ส่ง ผู้โดยสาร ซึ่งหลังเกิดเหตุตัวนักท่องเที่ยวก็ตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบ้านเรามันป่าเถื่อนกันขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะต้องใช้ดุลพินิจในการตัดสินก่อนจะแจ้งดำเนินคดี เพื่อความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แท็กซี่ ปะทะ อูเบอร์ เปิดศึกต่อยกลางลานจอดรถห้างดังพัทยา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook