ผบก.สุราษฎร์ฯ ยันไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ยิงสกัดคนร้ายในโรงพยาบาล

ผบก.สุราษฎร์ฯ ยันไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ยิงสกัดคนร้ายในโรงพยาบาล

ผบก.สุราษฎร์ฯ ยันไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ยิงสกัดคนร้ายในโรงพยาบาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสกัดคนร้ายในเขตโรงพยาบาลที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดผู้การตำรวจยืนยันไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ปฏิบัติตามขั้นตอนและยุทธวิธีแล้ว ส่วนคนร้ายที่ถูกยิงที่หน้าอกด้านขวา ได้รับการผ่าตัดแล้ว

วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์คนร้ายขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน ผจ 3351 สุราษฎร์ธานี เข้าไปในเขตโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 6 นาฬิกา วันที่ 28 กันยายน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานปั๊มน้ำมัน ปตท.หมู่ที่ 2 ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และได้มีการขับรถหลบหนี

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยิงสกัดล้อรถ และตามยิงสกัดต่อจนรถคนร้ายชนฟุธบาท บริเวณหน้าสี่แยกถนนหน้าเมือง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว นายจิรเดช อายุ 36 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา จำนวน 1 นัดได้รับบาดเจ็บและนำตัวส่งรักษาที่ส่ง โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงกรณีมีการยิงสกัดกันในเขตโรงพยาบาลว่าไม่เหมาะสม ล่าสุด พลตำรวจตรีอภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกมาชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดติดตามจับกุมพยายามที่จะสกัดยานพาหนะของคนร้าย เพราะคนร้ายมีอาวุธและยิ่งใส่เจ้าหน้าที่ขณะติดตามจับกุม และไม่ยอมจำนน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ยุทธวิธีสกัดยานพาหนะของคนร้าย ด้วยการใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่ยางล้อรถ เพื่อเป็นการหยุดไม่ให้คนร้ายไปต่อไม่ได้ ซึ่งถ้าหากปล่อยให้เข้าไปในเขตชุมชน อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แต่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและยุทธวิธีอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ในส่วนของคนร้าย ขณะนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากเพิ่งได้รับการผ่าตัด ถ้าอาการดีขึ้นจึงจะทำการสอบปากคำ ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่สามารถค้นหาจนเจอ และภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญทางคดี และอยู่ระหว่างส่งตรวจสอบลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน

และจากการตรวจร่างกายในตัวคนร้ายยังพบสารเสพติด และจากการตรวจสอบประวัติคนร้ายรายนี้เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามหลักฐานที่มีในที่เกิดเหตุ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook