แบบนี้ก็ได้เหรอ? พ่อค้าพาเมียจี้ชิงแท็กซี่ อ้างรถเสียยืมไปส่งของก่อน

แบบนี้ก็ได้เหรอ? พ่อค้าพาเมียจี้ชิงแท็กซี่ อ้างรถเสียยืมไปส่งของก่อน

แบบนี้ก็ได้เหรอ? พ่อค้าพาเมียจี้ชิงแท็กซี่ อ้างรถเสียยืมไปส่งของก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อค้าตลาดจตุจักรพาเมียจี้ชิงแท็กซี่ อ้างรถเสียอยู่ที่อู่ ขอยืมขับไปส่งของก่อน

(1 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.อรรณพ นวมนาคะ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางบัวทอง ร่วมกันจับกุมตัว นายอุทิศ อายุ 39 ปี และ นางสุทธิมา อายุ 42 ปี  ผู้ต้องหาคดีจี้ชิงรถแท็กซี่และทรัพย์สิน ที่บริเวณถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พร้อมของกลาง รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีส้ม ทะเบียนทษ 7618 กทม. เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ อาวุธมีดสั้น 1 ด้าม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และพระเครื่อง 1 องค์ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธมีด และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 30 ก.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทองได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนนทบุรี ว่ามีเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงรถแท็กซี่บริเวณริมถนนเขตติดต่ออำเภอไทรน้อย ถนนเลียบคลองตาชม หมู่ 8 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาผู้เสียหายเดินทางมารออยู่หน้า รพ.เกษมราษฎร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้เสียหายคือ นายธนัท อายุ 30 ปี 

จากการสอบถามนายธนัท ผู้เสียหายให้การว่าถูกคนร้ายเป็นคนร้ายจำนวน 2 คน ชายหญิง โดยผู้ชายใช้อาวุธมีดจี้บริเวณลำคอแล้วบังคับให้ส่งทรัพย์สินให้ และบังคับให้ผู้เสียหายลงจากรถและคนร้ายขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทษ 7618 กทม.โดยภายในรถแท็กซี่มีทรัพย์สินเป็น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อทรู จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ

นายธนัท กล่าวต่อว่า ตนเองได้รับผู้โดยสารทั้งสองคนมาจากศูนย์ราชการจังหวัดปทุมธานี เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.คนร้ายแจ้งว่าจะไปที่หมู่บ้านพฤกษา 3 เขต สภ.บางบัวทอง โดยตนใช้เส้นทาง ถนนสาย 345 ข้ามแยกไทรน้อยไปจนถึงแยกเข้าวัดไทรใหญ่และได้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อยและได้เลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองตาชม คนร้ายได้ใช้อาวุธมีดมาจี้ที่บริเวณคอของตนพร้อมกับเอื้อมมือมาบิดกุญแจรถ และคนร้ายได้บอกว่าขอยืมรถไปขนของและได้ไล่ตนลงจากรถ ด้วยความกลัวตนเองจึงไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

จากนั้นคนร้ายได้ขับรถของตนเองไป โดยย้อนออกมาจากถนนเลียบคลองตาชมมุ่งหน้าถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย แต่ตนจำไม่ได้ว่าเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา จากนั้นตนเองจึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีได้พาตนมาถึงหน้า รพ.เกษมราษฎร์ ก็ไม่พบจึงได้หยุดอยู่บริเวณนั้น พร้อมได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

จากการสอบสวน นายอุทิศ ผู้ต้องหา ทราบว่าตนเรียกรถแท็กซี่มาจาก ข้างโลตัส จ.ปทุมธานี เพื่อจะไปหาแม่ที่หมู่บ้านมิตรประชา 3  และนั่งคุยกับ โชเฟอร์แท็กซี่ มาเรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ตนได้เอาหมวกกันน็อคไปคืนเพื่อน และขอยืมเงินมา 150 บาท เพื่อมาซื้ออาหารปลาและอาหารกุ้ง ที่มาก่อเหตุแบบนี้ เพราะรถของตนเสีย ขายของไม่ได้ ไม่มีตังค์ใช้ แฟนก็ตกงานและเอารถไปซ่อมที่อู่ ทางอู่ก็เร่งมาว่ารถเสร็จแล้ว ให้เอาเงิน 5,500 บาทไปให้ทางอู่ ที่มาชิงรถแท็กซี่ เพื่อจะขับรถแท็กซี่เอาปลาไปส่งที่สวนจตุจักร ไม่ได้เอารถแท็กซี่ไปขาย

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และตรวจสอบประวัติพบว่านางสุทธิมา กาศเมฆ เคยมีประวัติคดีลักทรัพย์ในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ มาแล้ว 2 คดี หลังจากนี้จะควบคุมตัวทั้ง 2 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook