หมออิตาลีโอ่ทำโคลนนิ่งเด็ก 3 คน

คมชัดลึก : หมออิตาลีโอ่ทำโคลนนิ่งเด็ก 3 คน

โรม- นิตยสารอ็อกกีของอิตาลี ฉบับวางแผงวันพุธ (4 มี.ค.) รายงานบทสัมภาษณ์นายเซเวอริโน แอนติโนรี สูตินรีแพทย์ชื่อดังผู้เคยทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางจากกรณีทำให้หญิงวัยหมดประจำเดือนกลับมามีลูกอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดอ้างว่าได้โคลนนิ่งเด็ก 3 คนเป็นเด็กชาย 2 คน และเด็กหญิงอีก 1 คน โดยเด็กทุกคน ซึ่งมีอายุ 9 ขวบแล้ว ได้กำเนิดขึ้นอย่างปลอดภัย และมีสุขภาพแข็งแรงดีเยี่ยม โดยปัจจุบันอาศัยอยู่ในประเทศแถบยุโรปตะวันออก ขับมอเตอร์ไซค์ทำให้คงความหนุ่มสาว

โตเกียว- นายเรียวตะ คาวาชิมะ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น และคณะวิจัยผู้อยู่เบื้องหลังซอฟต์แวร์ฝึกสมองยอดนิยม เบรน เอจ รวมทั้งบริษัทยามาฮา มอเตอร์ เปิดเผยผลการศึกษาชายอายุระหว่าง 40-60 ปี 22 คน ที่ไม่ได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มาอย่างน้อย 10 ปี เมื่อวันพุธ (4 มี.ค.) พบว่า กลุ่มที่แยกไปขับขี่มอเตอร์ไซค์อีกครั้งมีกระบวนการทางความคิดดีกว่ากลุ่มที่ยังขับรถยนต์หรือขี่จักรยาน เนื่องจากการขับขี่มอเตอร์ไซค์ทำให้สมองได้ออกกำลังกาย กระปรี้กระเปร่า โดยกลุ่มที่ขี่มอเตอร์ไซค์ยังเผยด้วยว่าทำงานผิดพลาดน้อยลงและรู้สึกมีความสุขมากขึ้น หญิงจีนไล่ฟันเด็กตาย 2 เจ็บ 4

ปักกิ่ง- สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานเมื่อวันพุธ (4 มี.ค.) ว่านางสวี ซีเหม่ย วัย 40 ปี ได้ใช้มีดทำครัวไล่ฟันเด็กที่โรงเรียนประถม และที่ลานกว้างในหมู่บ้านหม่าจ้าน มณฑลกวางตุ้ง ส่งผลให้เด็กชายวัย 4 ขวบ และ 6 ขวบเสียชีวิต รวมทั้งทำให้เด็กอีก 3 คน รวมทั้งยายของเด็กที่ตายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ โดยหลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่พบนางสวีนอนแผ่อยู่บนพื้นห้องเรียน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่านางสวีอาจมีปัญหาทางจิต และยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ ขวางพ่อแม่นำสเปิร์มลูกที่ตายไปใช้

นิวยอร์ก- ศาลอุทธรณ์รัฐนิวยอร์กในสหรัฐตัดสินเมื่อวันอังคาร (3 มี.ค.) ว่านายแอนโทนิโอ และนางแมรี สเปอแรนซา พ่อแม่ของนายมาร์กที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งขณะอายุ 23 ปี เมื่อปี 2541 ไม่สามารถขอสเปิร์มของลูกชายที่เคยให้ไว้กับ รีโปร แล็ป เพื่อนำไปผสมเทียมให้กำเนิดหลานได้ เนื่องจากนายมาร์กได้เขียนคำสั่งเอาไว้ว่าต้องการเก็บสเปิร์มเอาไว้ผสมเทียมให้กำเนิดลูกหากตัวเองรอดชีวิตจากมะเร็ง และต้องการให้ทำลายสเปิร์มทิ้งหากตัวเองตาย จีนเพิ่มงบกลาโหมเป็น 2 ล้านล้าน

ปักกิ่ง- โฆษกรัฐบาลจีนแถลงเมื่อวันพุธ (4 มี.ค.) ว่างบประมาณด้านกลาโหมประจำปี 2552 จะเพิ่มอีกร้อยละ 14.9 เป็น 480,686 ล้านหยวน (ราว 2.4 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 62,482 ล้านหยวน พร้อมยืนยันว่าการเพิ่มงบครั้งนี้มีเพื่อปกป้องอธิปไตย และความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศ ไม่ได้เสริมเขี้ยวเล็บทางทหารอย่างที่สหรัฐ ญี่ปุ่น และประเทศพันธมิตรอื่นๆวิตก ก่อนจะเน้นว่าจีนใช้งบกลาโหมเพียงร้อยละ 1.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับงบกลาโหมของสหรัฐที่ใช้ถึงร้อยละ 4.0 ของจีดีพี ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศสใช้ร้อยละ 2.0