ชีวิตคือการเต้นรำ

ชีวิตคือการเต้นรำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมได้พยายามจับสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นแบบบูรณาการ อาศัยว่าผมเป็นคนมีเพื่อนมากและเพื่อนเหล่านี้ก็กระจัดกระจายประกอบสัมมาอาชีวะกันอยู่ทั่วไปบนโลกสีน้ำเงินเล็กๆ ใบนี้ การที่ได้รับรู้ข้อมูลโดยตรงต่างๆ จากทุกทิศทาง ก็เลยเป็นผลให้ผมมักจะไม่กล้าที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นนักวิเคราะห์ เพราะวิเคราะห์ทีไรพอเจอความเป็นจริงก็ผิดทุกที แต่ผมมักจะพึงใจที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ที่เอาความจริงมาตีแผ่มากกว่า

ผมจึงขอวางจุดยืนของผมว่าไม่ใช่นักวิเคราะห์ แต่อยากเป็นนักเล่าเรื่อง โดยเอาเรื่องที่เป็นความจริงมาเล่าให้ฟัง หากได้ติดตามผมจากสื่อต่างๆ จะรับรู้ได้ว่าตั้งแต่ปีที่แล้ว ผมพยายามทำหน้าที่เป็น สุนัขเฝ้าบ้าน คอยเตือนสติ โดยเอาความจริงที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ก ต้นตอของการแพร่ระบาดเชื้อโรคทางเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์ดีซีส ซึ่งวิกฤติการณ์นี้ได้บอกสัจธรรมที่ว่า ระบบทุนนิยมเก่ากำลังถูกทำลาย ระบบทุนนิยมใหม่ก็กำลังก่อตัวขึ้น เพื่อเข้ามาชดเชยเติมเต็มในช่องว่างที่ล่มสลายลง

ปราชญ์ผู้ศึกษาเต๋ากล่าวไว้ว่า ชีวิตคือการ เต้นรำ ซึ่งชีวิตที่มีขนาดเล็กที่สุดกับระบบนิเวศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็ไม่แตกต่างกันครับ ในมุมมองของนักเล่าความจริงอย่างผม บางครั้งการ เต้นรำ มีการออกสเต็ป ยักย้ายสายสะโพกไปทางขวา (ทุนนิยมเสรี) แต่ในบางครั้งเพื่อให้เกิดความสมดุลและความงดงาม ก็มีการยักย้ายส่ายสะโพกไปทางซ้าย(สังคมนิยมเสรี) แต่มีบางครั้งหลังจากรุ่งเรืองสุดขีดก็มีโอกาสล้มคว่ำคะมำหงาย พบหายนะครั้งใหญ่ ไม่ต่างจากปรากฏการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นและแพร่ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่จะว่าไปแล้วไฟป่าก็มีประโยชน์มิใช่น้อย เพราะทำให้ป่าสะอาดขึ้น ต้นไม้เล็กๆ หลากหลายพันธุ์มีโอกาสเติบโตแข่งขันกันแตกหน่อ ชูช่อ ทำให้ป่ามีความหลากหลายและงดงามขึ้น

หากมองอย่างผิวเผินอาจเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่บางครั้งอาจดูไม่มั่นคง แต่แท้จริงแล้ว อาจมีความมั่นคงกว่าที่เราคาด เพราะมีการเตรียมตัวระแวดระวัง ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงแห่งสัจจะของธรรมชาติที่ว่าด้วยไตรลักษณ์ สะท้อนออกมาในรูปแบบของการเกิดขึ้น คงอยู่ แล้วแตกดับ ไม่มีอะไรเที่ยง ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องปรับตัวให้ได้ เมื่อเราเข้าใจกฎกติกาพื้นฐานเหล่านี้ ต่อให้เผชิญกับวิกฤติหรือกลียุคที่หนักหนาสาหัสแค่ไหน เราก็จะยืนสู้อย่างทระนงองอาจโดยไม่หวั่นเกรง สามารถยิ้มรับกับความท้าทายใหม่ๆ ที่ได้เข้ามาและกำลังจะเข้ามา

ปัจจุบันโลกใบนี้กำลังถูกท้าทายครับ ท้าทายความสามารถของมนุษย์ที่ไม่ใช่จะเข้าไปชี้นำ บงการ หรือจัดการกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของโลกดังเช่นที่เคยปฏบัติมา แต่ในทางกลับกัน สถานการณ์ปัจจุบันกำลังท้าทายให้พลโลกเปลี่ยนแปลงทัศนคติจากชี้นำเป็นการยอมรับปรับตัวอย่างให้เกียรติ พร้อมที่จะเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจในระบบที่ซับซ้อนของโลก นับแต่นี้ไปกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการก็จะทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่โลกกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เข้าสู่วิกฤติใหญ่ๆ พร้อมๆ กัน

ในสถานการณ์เช่นนี้เราจะต้องละทิ้งความเป็นนักวิเคราะห์ คาดการณ์ แต่จะต้องเข้าสู่การเรียนรู้ รับรู้ความเป็นจริงเพื่อแสวงหาแนวทางแบบประนีประนอม ที่ไม่ถูกทั้งหมดหรือไม่ผิดทั้งหมด เป็นการแสวงหา มรรควิธี หรือทางปฏิบัติแบบ เดินสายกลาง หากคิดได้เช่นนี้ต่อให้สิบวิกฤติ ก็เป็นเพียงแค่บททดสอบเล็กๆ ที่เข้ามาแล้วก็เคลื่อนตัวผ่านไป เพราะอีกไม่ช้าก็จะมีบททดสอบใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้นก็จะเข้ามาแทนที่ เป็น กงเกวียนกำเกวียน เช่นนี้ตลอดไปครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ไฮไลท์ทีวี (จันทร์ที่ 16 มี.ค. 52) บทเพลงธรรมชาติ เต้นรำกับแผ่นดิน ในเทศกาลดนตรีโลก @ เขาหลัก กลุ่มเสื้อแดงสลายตัวกลับบ้าน อีกหนึ่งเดือนข้างหน้ารวมพลอีก ตามไปดู ดิสนีย์ ออน ไอซ์ อิน ฮ่องกง คุณแม่จอมเฮี้ยบแห่งทำเนียบขาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook