แก๊งโจรบุกปล้นเงินนักธุรกิจค้าทอง ย่านรัชดา กวาดเงิน 60 ล้านหนี

แก๊งโจรบุกปล้นเงินนักธุรกิจค้าทอง ย่านรัชดา กวาดเงิน 60 ล้านหนี

แก๊งโจรบุกปล้นเงินนักธุรกิจค้าทอง ย่านรัชดา กวาดเงิน 60 ล้านหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนร้ายใช้ปืนบุกปล้นทรัพย์นักธุรกิจค้าทอง ในคอนโดฯย่านรัชดา ได้เงินเยนไป 196 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาท

(3 ต.ค.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางเข้าประชุมกับชุดสืบสวน ที่ สน.พหลโยธิน เพื่อติดตามคดี แก๊งคนร้ายร่วมปล้นทรัพย์ ผู้เสียหาย นักธุรกิจค้าทองคำ ในคอนโดมิเนียม ย่านรัชดาภิเษก 30 ได้เงินเยนไป 196 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา นายภัทริศ หรือ โต้ อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งประกอบธุรกิจซื้อขายทองคำแท่ง เครื่องประดับ เครื่องเพชร ส่งขายยังประเทศญี่ปุ่น ได้ให้เพื่อนนำเงินสด (สกุลญี่ปุ่น) 196 ล้านเยน ใส่กระเป๋าเดินทางและส่วนที่เหลือบางส่วนได้นำใส่กระเป๋าสะพายหลัง เดินทางจากประเทศญี่ปุ่น มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

มาถึงยังบริเวณชั้นผู้โดยสารขาเข้า ได้พบกับ นายจิรภัสส์ หรือ เนย และ นายเกียรติพงษ์ หรือ อุ้ย ยืนรออยู่ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ผู้เสียหาย ให้เดินทางมารับเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อนำไปเก็บไว้ที่ คอนโดฯ ย่านรัชดาภิเษก ทั้งหมดจึงนำกระเป๋าเงิน ใส่รถบีเอ็มดับเบิ้ลยู เดินทางไปที่คอนโดมิเนียม ย่านรัชดา เมื่อมาถึงจุดหมายได้มีกลุ่มชายประมาณ 5-6 คน สวมหมวกไหมพรมสีดำ โดยคนร้ายได้นำอาวุธปืนออกมาข่มขู่ และรุมทำร้ายนายอุ้ย ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนนายเนย ถูกกลุ่มคนร้ายกดหัวลงกับพื้น ถูกมัดมือไพล่หลัง และมัดข้อเท้า มีเทปกาวปิดปาก จากนั้นและนายเนย และนายอุ้ย ได้ถูกคนร้ายนำถุงกระสอบป่านมาคลุมศีรษะ ก่อนที่จะปล้นเอาเงินแล้วหลบหนีไป ผู้เสียหายได้ช่วยกันแก้มัด แล้วแจ้งให้นายโต้ ทราบ นายโต้ จึงได้เดินทางมาแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน

พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช  เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามคดี กลุ่มคนร้าย ปล้นเงินเยน 196 ล้านเยน หรือ คิดเป็นเงินไทย 60 ล้านบาท จากผู้เสียหาย ในคอนโดมิเนียมย่านรัชดา ว่า คดีนี้ ตำรวจได้นับการแจ้งเหตุ เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่ามีกลุ่มคนร้าย มาดักรอ ผู้เสียหายที่ลานจอดรถชั้น 5 ของคอนโดมิเนียม ดังกล่าว ก่อนจะทำร้าย ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บ เย็บไป 20 เข็ม และนำรถกระบะฟอร์ด สีส้มของผู้เสียหาย ไปด้วย ซึ่งจากการสอบสวน ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของเงิน ให้การว่า ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาขัดแย้ง ทางธุรกิจกับใคร เพราะส่วนตัวทำธุรกิจ ด้านนี้ มาประมาณ 5 ปี และมีการขนเงิน เข้ามาแบบนี้ โดยการขอดีแคลร์ อย่างถูกต้อง 

รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังระบุว่า ในเรื่องของการขนเงินดังกล่าว มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า จะนำเงินมาเก็บไว้ที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ ก็เป็นคนในกลุ่มของผู้เสียหายเอง ซึ่งขณะนี้ ตำรวจ ได้ทำการสอบปากคำ ผู้เสียหายทั้งหมดแล้ว ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเชื่อว่าคดีนี้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และให้น้ำหนักในเรื่องของการปล้นทรัพย์ เป็นประเด็นหลัก

พร้อมกันนี้ รรท.ผบช.น. ได้สั่งการทุกพื้นที่ ในสถานีตำรวจนครบาล ที่มีสถาบันการเงินอยู่ ในพื้นที่ ให้ตรวจสอบเรื่องของการแลกเงินเยน เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและประสานเรื่องการขนเงินข้ามชายแดนด้วย

ทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการและให้นโยบายมาแล้วเรื่องของการ ติดตามคนร้าย ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้สกัดจับ รถยนต์กระบะฟอร์ดที่คนร้าย ปล้นไปจากผู้เสียหาย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบวงจรปิด ในที่เกิดเหตุรวมทั้งเส้นทางหลบหนีของคนร้ายด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook