เด็กแม้วอัด2หนุ่มทำศก.ย่อยยับ บริหารผิดพลาด

เด็กแม้วอัด2หนุ่มทำศก.ย่อยยับ บริหารผิดพลาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 14.05 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมุ่งเป้าไปที่นายอภิสทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เพราะเป็นคนที่ดูแลทีมเศรษฐกิจ ว่า ต้องขออนุญาตใช้คำว่าเด็กหนุ่ม 2 คน ที่กำลังบริหารประเทศทำให้ถังแตก ขอกล่าวหาตามประเด็นดังนี้ 1.บริหารงานผิดพลาด ประมาท ทำให้ไทยถังแตก 2.บริหารงานแบบหน้ามืด สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เพื่อประโยชน์แก่พรรคและพวกตัวเอง 3.สร้างหนี้กู้ยืมเอาประเทศไทยไปจำนำจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว 4.บริหารงานอย่างไร้ประสิทธิภาพพ ไร้ความรู้ความสามารถ ทำคนจน 23 ล้านคน เกษตรกร 24 ล้านคน รอความตายทุกข์ทรมาณมีหนี้สินพอกพูน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายกฯ มักจะพูดเสมอว่ามาถูกทางแล้ว แต่ที่ผ่านมากลับทำให้ประเทศไทยขาดดุลงบฯ ปี 2552 ถึง 347,060.5 ล้านบาท โดยเร็วๆ นี้จะมีการแก้ไขกฎหมาย ใน มาตรา 21 พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ เพื่อให้สามารถกู้เงินเพิ่มขึ้นได้ รวมไปถึงแก้ มาตรา 22 พ.ร.บ.เดียวกัน โดยหวังที่จะสามารถกู้เงินต่างประเทศได้เป็น 10% ของงบฯ ประจำปี เพื่อเพิ่มเพดาเงินกู้ โดยหวังที่จะกู้ถึง 1.5 แสนล้าน แน่ใจว่าไม่นานจะต้องมีการนำเข้าสู่สภาแน่ นอกจากนี้เมื่อวันพุธ (18 มี.ค.)

ส.ส.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาก็มีการผลักดัน พ.ร.บ.ขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา พ.ศ. ... แสดงว่าจะไปกู้เงินอีก ซึ่งผิดต่อมาตรา 190 ที่ไม่อนุญาตให้นทำ ฝ่ายค้านก็ขอให้ถอนไป สุดท้ายนายกฯ ต้องยอมถอน ขายหน้าเขาหรือไม่ ที่เอากฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเข้าสภา เพื่อมากู้เงินเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ประเทศถังแตกเข้าไปอีก ทำประเทศเป็นหนี้สิน เมื่อสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร) สิสามารถบริหารจนสามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้

เมื่อเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า ก็จะไปเก็บภาษีบาป อย่างเหล้า ชา กาแฟ สถานบันเทิง ตรงนี้กระทบคนจน ไม่มีเหล้าให้ประชาชนคนจนได้กื่มกัน ก็อจจะไปหันไปกินยาบ้าแทน เหล้าบางครั้งก็เป็นประโยชน์ ถ้าจะคิดอะไรก็ขอให้รอบคอบ ขอให้ละอายใจกันบ้างหรือ นายสุรพงษ์ กล่าวและว่า แล้วยังมีการเก็บภาษีสรพสามิตน้ำมันเพิ่มซึ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาก ส่งผลต่อราคาปุ๋ยยูเรียให้พุ่งสูงขึ้นอีก

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า อยากจะแก้กฎหมายเอาของกลางจากคดีหวยบนดิน 1.7 หมื่นล้านมาใช้ จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ แต่แทนที่จะกล้าตัดสินใจทำไมไม่เอาหวยบนดินขึ้นมา เพราะประชาชนจะได้ประโยชน์มาก ทุกวันนี้มีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาใบละ 20 บาท คิดง่ายๆ 23 ล้านคู่ต่องวด เท่ากับได้กำไรต่องวดถึง 460 ล้านบาท แล้วใครได้ประโยชน์ อย่างพวกเจ้ามือหวยใต้ดินแต่ละงวดมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท เงินเหล่านี้ตกอยู่กระเป๋าใครตอบได้หรือไม่ มีข่าวว่าพวกเจ้ามือหวยใต้ดินร่วมลงขันกันจะล้มล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร) ตรงนี้ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย

ต้องยอมรับว่าเด็กหนุ่ม 2 คน ไม่เคยลำบาก เกิดมาในตระกูลร่ำรวย เป็นลูกเศรษฐี ไปเรียนเมืองนอก จบมหาวิทยาอ๊อกฟอร์ดทั้งคู่ อยู่หอพัก เล่นกีฬา มีอาหารดีๆ กิน ไม่ต้องไปจ่ายตลาด ไม่เหมือนพวกผม พูดภาษาอังกฤษเก่งเพราะไปเรียนแต่เด็ก คนหนึ่งกลับมาก็ถูกดึงไปทำงานการเมือง แม้จะไปเป็นอาจารย์แต่ก็เป็นช่วงที่หนีราชการ อีกคนหนึ่งไปทำงานเงินๆ ทองๆ แต่วันนี้ถามว่ขาดประสบการณ์ ขาดความเข้าใจคนจน เกษตรกร ขาดความกล้าในการตัดสินใจ ขนาดจับไม้กวาดยังไม่เป็นเลย ทั้งสองคนไม่รู้วิธีการค้าขาย เพราะไม่เคยลำบาก อดยาก หามื้อกินมื้อ ปากเก่ง พูดดีใส่ตัว พูดไม่ดีใส่คนอื่น ชอบทำงานด้วยปาก ประชาชนผิดหวัง เด็ก 2 คน รู้ไหมว่าอุตสาหกรรมที่ทำให้ไทยพ้นวิกฤตได้คือ อุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่รัฐบาลกลับงบฯ เกษตรแค่ 2 พันบล้าน

ส.ส.เชียงใหม่ อภิปรายต่อว่า รู้หรือไม่ว่าห้องในโรงแรมว่าเท่าไหร่ ตนเป็นประธาน กมธ.การเงินการคลังฯ ตนได้ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำวิจัยชี้ว่าการที่พันธมิตรฯ ปิดสนามบินทำให้เสียหายถึง 2.9 แสนล้านบาท น่าเศร้าหรือไม่ นี่ยังไม่นับร้านอาหาร ภัตตาคาร คาเฟ่ ตลกตกงาน อุตสาหกรรมที่เจ๊งอีกคือ อุตสาหกรรมส่งออก ภาคการผลิต ซึ่งเป็นรายได้ของประเทศถึง 70% เช่น รถยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่ สิ่งทอ ยาพารา ข้าว เป็นต้น การบริโภคภายในและนอกประเทศถดถอยอย่างเลวร้าย

ที่สำคัญที่สุดคือนักวิชาการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลนี้ทำประชานิยมแบบไร้สมอง ผมก็เห็นใจ เพราะเด็กหนุ่ม 2 คน มักจะพูดตลอดว่ารัฐบาลนี้ทำงานหนัก แต่ไม่เจริญ เพราะทำงานหนักแต่โง่ไม่ดี แต่ทำงานน้อยแต่ได้ผลดีถึงเจริญ นายสุรพงษ์ กล่าว และว่า รัฐบาลนี้ยังลอกเลียนนโยบายประชานิยมของพ.ต.ท.ทักษิณ

ส.ส.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า สงสัยว่าเด็กหนุ่ม 2 คนนี้ตกเป็นเบี้ยล่างของใครหรือไม่ ยกตัวอย่างการบินไทย รมว.คลังถือหุ้นใหญ่ แต่กลับปล่อยให้รมว.คมนาคมดูแล โดยเฉพาะเรื่องการย้ายสนามบิน ทางกระทรวงคมนาคมบอกว่าจะทำให้เสียหาย 600 ล้านบาท แต่นายกฯ บอกไม่แค่ 200 ล้านบาท แต่ยังกลับไม่กล้าตัดสินใจที่จะย้ายจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ หากย้ายไปสุวรรณภูมิจริงจะทำให้เกิดความแออัด กลายเป็นว่าจะต้องมีการผลักดันให้เกิดการขยายสนามบินอีก 5 แสนล้าน ถามว่าอย่างนี้ตกเป็นเบี้ยล่างของใคร

อยากให้เลิกนิสัยใจแคบ และรับฟังเสียงวิจารณ์บ้าง เลิกหลอกตัวเองว่าเศรษฐกิจจะเป็นบวก เพราะหลายๆ แห่งก็ระบุว่ามันจะเป็นลบ ทั้งนี้ ธปท.ได้นำตัวเลขมาให้ตนว่าตัวเลขจะติดลบ 1% ผมชี้เลยว่าเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทยย่อยยับนั้นเป็นเพราะว่า 1. ปิดสนามบิน 2.การเมืองไร้เสถียรภาพ ทำประชาชนไม่มีความสุข เพราะตกเป็นเบี้ยล่างใคร 3.สำคัญที่สุด ทีมเศรษฐกิจโดย 2 หนุ่ม 1 มุมใจแคบที่จะแก้ปัญหา นายสุรพงษ์ กล่าว และว่า ดังนั้นการบริหารงานของ 2 หนุ่มนี้จึงไม่อาจไว้วางใจได

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook