ตำรวจเชื่อ "มือปืนลาสเวกัส" ไม่ได้ลงมือเพียงลำพัง

เพื่อนสาวคนสนิทของมือปืนกราดยิงที่ลาสเวกัส ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ตำรวจเชื่อว่ามือปืนไม่น่าจะลงมือเพียงลำพัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โจมเซฟ ลอมบาร์โด นายอำเภอเขตคลาร์ก เคาน์ตี้ ในเมืองลาสเวกัส เปิดเผยความคืบหน้าเหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตกลางแจ้งว่า จากหลักฐานที่พบ ทั้งจำนวนปืนที่คนร้ายใช้ วัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในรถ รวมถึงมีการติดตั้งกล้องสอดแนมไว้ทั้งในห้องพักและโถงทางเดินของโรงแรม ทำให้เชื่อได้ว่าคนร้ายไม่น่าจะสามารถทำทุกอย่างนี้ได้เพียงลำพัง แต่น่าจะมีคนให้ความร่วมมือมากกว่า

ประเด็นที่น่าแปลกใจคือ ตำรวจพบเบาะแสเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้นายแพดด็อกเคยเช่าห้องพักที่คอนโดแห่งหนึ่งในย่านดาวน์ทาวน์ โดยเลือกห้องที่อยู่ตรงข้ามกับลานแสดงคอนเสิร์ตอีกแห่งที่มีชื่อว่า Life is Beautiful ที่มีวงดนตรีชื่อดังอย่าง Muse, Lorde และ Blink-182 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า นายแพดด็อกอาจตั้งใจจะลงมือก่อเหตุในเทศกาลดังกล่าว ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายในเวลาต่อมา

ขณะที่อีกหนึ่งข้อสังเกตที่ตำรวจให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2016 ถึงเดือนกันยายน 2017 นายแพดด็อกทยอยซื้อปืนชนิดต่างๆ รวมกันถึง 33 กระบอก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาแทบไม่มีประวัติการซื้อปืนเลย ตำรวจจึงอยากรู้ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว นายแพดด็อกเจอเรื่องสะเทือนใจอะไรหรือไม่ จนนำมาสู่การก่อเหตุครั้งนี้

ส่วนของ นางแมรีลูว์ แดนลีย์ เพื่อนสาวคนสนิทของนายแพดด็อกซ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า เธอไม่มีส่วนรู้เห็นหรือระแคะระคายเลยว่านายแพดด็อกจะก่อเหตุได้ขนาดนี้ ส่วนการติดต่อกันครั้งสุดท้ายก็คือเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นายแพดด็อกซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านที่ฟิลิปปินส์ให้เธอ พร้อมกับโอนเงินมาให้ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้นำไปซื้อบ้าน ซึ่งเธอเข้าใจว่านายแพดด็อกต้องการจะยุติความสัมพันธ์ด้วยซ้ำ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมด้วย นางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ได้เดินทางเยือนลาสเวกัสเพื่อเยี่ยมผู้รอดชีวิต และครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ตรวจเยี่ยมสำนักงานตำรวจลาสเวกัส พร้อมกล่าวยกย่องในความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สละชีวิตปกป้องชาวอเมริกันทุกคน