โฆษกพท.ซัดมาร์คอุ้มกษิตเพื่อรักษาไมตรีพธม.

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ถึงเสียงลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในกรณีของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เห็นชัดว่า ขาดเสียงสนับสนุนไป 9 เสียง ซึ่งเป็นนัยยะที่สำคัญทางการเมืองของพรรครัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้มีส.ส.ประชาธิปัตย์บางคนจะขอร่วมอภิปรายพร้อมฝ่ายค้าน แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เบรคเกมนี้ไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นคงจะได้เห็นอะไรดีๆ วันนี้ จริยธรรมขั้นพื้นฐานที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการโดดอุ้มนายกษิต เพราะหากเสียงไม่ไว้วางใจขนาดนี้ถ้าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่เจริญแล้วอย่างประเทศยุโรป ประเทศญี่ปุ่น ถ้านายกษิตไม่หนาจนเกินไปต้องลาออกแล้ว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีทำตัวเป็นเจ้าบุญทุ่มยังไม่พอ ยังเป็นเจ้าบุญอุ้มอีก ซึ่งสาเหตุที่นายอภิสิทธิ์ กล้าปลดนายกษิต เพราะไม่อยากเปิดศึก 2 ด้าน ไม่อยากมีปัญหากับพันธมิตรฯในระหว่างที่จะมีการชุมนุมของคนเสื้อแดง นายกรัฐมนตรีจึงยื่นไมตรีตรงนี้ ทั้งที่กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลแทบจะรับไม่ได้

"พรรคพอใจการทำหน้าที่ของร.ต.อ.เฉลิม (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง)มาก รวมถึงประชาชนที่สะท้อนความคิดเห็นผ่านคอลเซ็นต์เตอร์ด้วย รวมทั้งเอแบโพลที่สะท้อนว่า การอภิปรายครั้งนี้จะมีผลต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านไม่ใช่การจำอวดนายพร้เอมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายอภิสิทธิ์ ในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญา มารตรา 157 เนื่องจากยังปล่อยให้นายกษิต ทำหน้าที่ต่อ ทั้งที่นายกษิต เป็นผู้ต้องหาในคดีปิดสนามบิน ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขู่ว่าพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบพรรคครั้งที่3 ที่ไปกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์นั้น ทำให้ห็นว่า นายสุเทพ ไม่รู้จริง เพราะร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค และการพูดในสภามีเอกสิทธิคุ้มครอง ซึ่งบางเรื่องหลักฐานของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่า ดีเอสไออีก อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการส่งเรื่องให้กกต.ดำเนินการต่อ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการซื้อตัวส.ส.นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามส.ส.ที่งดออกเสียงว่ามีเรื่องนี้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ ขณะนี้มีนายปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี เพียงคนเดียวที่มีความชัดเจนว่า ต้องการไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมืองอื่น ส่วนส.ส.คนอื่นที่งดออกเสียงนั้นอาจเป็นเพราะรู้จักมักคุ้นกับรัฐมนตรีคนนั้น เลยงดออกเสียงก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยต่อไป