แท็กซี่โหดฆ่าปาดคอเมียเก่าคาห้องเช่า

แท็กซี่โหดฆ่าปาดคอเมียเก่าคาห้องเช่า

แท็กซี่โหดฆ่าปาดคอเมียเก่าคาห้องเช่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โชเฟอร์แท็กซี่ตามง้อเมียไม่สำเร็จ บุกพังห้องเช่าย่านบางบอน ใช้มีดปาดคอดับสยอง เผยคนตายทนพฤติการณ์ผัวขี้เมา เลี้ยงดูด้วยลำแข้งไม่ไหว หอบลูกสาววัย 9 ขวบหนีไปเช่าบ้านอยู่ จนพบรักใหม่ตั้งท้องได้ 2 เดือนก่อนถูกตามสังหาร

เหตุโชเฟอร์แท็กซี่รักคุดก่อเหตุสยองฆ่าเมียตายทั้งกลมรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 22 มีนาคม พ.ต.ท.สุรวุฒิ กุมภีพันธ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าเสียชีวิตภายในบ้านเช่าเลขที่ 92/130 ถนนกำนันแม้น 11 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน แพทย์ รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ตรวจสอบบริเวณชั้น 1 พบกระจกบานเกล็ดแตกละเอียดตกกระจายเกลื่อนพื้น บนชั้น 2 พบศพ น.ส.ศิริยา ศรีบุญบัว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/163 หมู่ 3 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสามส่วนสีดำ มีบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมบริเวณลำคอ ข้อมือซ้ายและต้นขาซ้ายถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์ นอนจมกองเลือด นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจาย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบนายพงษ์พันธ์ เผ่าวิจารณ์ อายุ 41 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ ยืนรอมอบตัวอยู่ในสภาพเสื้อผ้าเปื้อนเลือด พร้อมกับถือมีดปลายแหลมที่ใช้สังหารผู้ตายอยู่ด้วย 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ สน.บางขุนเทียน

จากการสอบถามนางสุมิตรา เอกมเหสี อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ผู้ตายมาขอเช่าบ้านอาศัยอยู่กับตนด้วยเมื่อเดือนที่แล้ว จึงเปิดห้องเป็นร้านเย็บผ้า ช่วงที่ผู้ตายเข้ามาอยู่ได้พาลูกสาว 1 คน อายุ 9 ขวบ ที่เกิดกับผู้ต้องหามาด้วย โดยผู้ตายเล่าว่าผู้ต้องหาชอบกินเหล้าและทุบตีจนทนพฤติการณ์ไม่ไหว จึงหนีออกมาขอพักอยู่กับตน

ต่อมาผู้ต้องหาได้ตามมาง้อขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่สนใจเพราะมีแฟนใหม่แล้ว และกำลังตั้งท้องได้ 2 เดือน ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ ก่อนเกิดเหตุได้มายืนตะโกนอยู่ที่หน้าบ้านจะขอพบลูก แต่ผู้ตายไม่ยอมให้พบเพราะต้องการตัดขาด ทั้งสอง จนตะโกนด่าทะเลาะกันอยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง กระทั่งผู้ตายชักมีดออกมาพร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ผู้ต้องหาก็ยังไม่สนใจ และยังถีบกระจกบานเกล็ดจนแตกก่อนจะเปิดประตูขึ้นมาที่ชั้น 2 และวิ่งตรงเข้าไปหาผู้ตาย ตนตกใจกลัวจึงรีบอุ้มลูกสาวของผู้ตายหลบหนีลงมาก่อน จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องของผู้ตายดังมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก่อนเสียงจะเงียบไป

จากการสอบสวน นายพงษ์พันธ์ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมาหลายปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ผู้ตายทนพฤติการณ์ของตนไม่ไหวจึงขอหย่าร้าง ที่มาหาผู้ตายในวันนี้เพียงเพราะต้องการพบลูกสาวเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะมาขอคืนดี แต่ผู้ตายก็พูดจาด่าทอ ด้วยความโมโหจึงขึ้นไปหาที่ชั้น 2 และก่อเหตุสลดดังกล่าว แต่ตนไม่รู้มาก่อนว่าผู้ตายมีแฟนใหม่แล้ว และกำลังตั้งท้องอยู่


พ.ต.ท.สุรวุฒิกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เพราะบันดาลโทสะที่ผู้ตายไม่ยอมให้พบลูก และมาขอคืนดีไม่สำเร็จ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook