ขอปิดทองหลังพระ ทำความดีเพื่อพ่อหลวง ร.9

ท่ามกลางความร้อนของอากาศยามบ่ายบวกกับความโกลาหลเล็กน้อยของประชาชนที่เดินทางมายังท้องสยามหลวงโดยมิได้นัดหมาย แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 สักครั้งหนึ่งในชีวิต

แต่ในบรรยากาศท่ามกลางของคนหมู่มาก ภาพของหนุ่มพนักงานทำความสะอาดของ กทม. กำลังขะมักเขม้นกับการเก็บเศษขณะที่ปลิวไปตามท้องถนนหรือแม้เศษขณะที่อยู่ในมือของประชาชนเขาก็พร้อมที่รอเพื่อเก็บลงถุงที่เขาเตรียมเอาไว้

นอกจากความขยันที่สะดุดตาแล้ว สิ่งที่ทำให้สะดุดหัวใจและซาบซึ้งนั่นคือที่หน้าอกเสื้อด้านซ้ายของพนักงานทำความสะอาดคนนี้ที่เขาได้นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ติดอยู่อย่างประณีต 

ทางทีมข่าว Sanook News! จึงได้มีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับชายคนดังกล่าวซึ่งเข้าได้เปิดใจกับทีมงานว่า

“ผมชื่อ ทรงสรรค์ ตันอรชร อายุ 46 ปี เป็นพนักงานทำความสะอาดเขตบางนา ผมได้รับมอบหมายให้มาเก็บขยะทำความสะอาดทั่วไปบริเวณรอบท้องสนามหลวง และผมก็จะดูแลรับผิดชอบทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”

ที่หน้าอกเสื้อคุณติดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 แสดงว่าคุณได้เข้าไปกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วใช่ไหม ?

“ตั้งแต่ทำงานมาผมยังไม่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ภาพบรมฉายาลักษณ์ที่เห็น พอดีมีประชาชนเค้านำมาแจกผมก็รับมา แล้วก็นำมาไหว้ขึ้นหัวและติดหน้าอกเสื้อไว้ เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานเสมือนว่าเราได้ทำความดีเพื่อพ่อสักครั้งหนึ่งในชีวิตของเราที่ได้เกิดมา”

ทำไมถึงยังไม่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 ทั้งที่ทำงานอยู่ใกล้ๆทุกวัน ?

“ผมมีหน้าที่ดูแลความสะอาดเรียบร้อยรอบสนามหลวงจึงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รับผิดชอบทำความสะอาดรอบบริเวณสนามหลวงให้ดูสะอาดหูสะอาดตาแขกไปใครมาจะได้ดูมีความสุขและที่สำคัญเมื่อประชาชนเดินเข้ามายังสนามหลวงเพื่อเข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 จะได้สบายใจและได้รับความสุขกลับไป

แต่ทั้งนี้ในใจลึกๆ ผมก็อยากจะไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 เหมือนกันแต่ไม่มีโอกาสเพราะผมต้องดูแลรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งผมมาทำความสะอาดทุกวันแต่ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปเลย ถึงวันสุดท้ายผมก็ยังคงต้องปฏิบัติงานอยู่

แต่ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เข้ากราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 ข้างในนั้น เวลาผมทำงานผมก็ยกมือไหว้เพื่อกราบพระองค์ท่านอยู่ข้างนอกแค่นั้นก็พอใจแล้ว เพราะพระองค์ท่านอยู่ในใจผมและผมระลึกอยู่เสมอว่าสิ่งที่ผมทำคือความดีที่ผมทำเพื่อพ่อหลวง ร.9 ผมจะดูแลรักษาความสะอาดให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชนที่เดินทางมากราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 จะได้พบเจอแต่สิ่งสวยงามและได้รับสิ่งดีๆ กลับไป”

ความทรงจำที่มีพ่อหลวง ร.9 เริ่มต้นตอนไหน ?

“ผมรู้จักพระองค์ท่านตั้งแต่ตอนยังเล็กๆ เมื่อครั้งที่แม่เล่าเรื่องราวของพระองค์ท่านให้ฟังและยังเคยคุยกับคุณแม่ว่าในหลวง ร.9 ท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชน เสด็จพระราชดำเนินไปทุกหนทุกแห่ง แม้เส้นทางจะทุรกันดารแค่ไหนพระองค์ท่านก็ไม่เคยย่อท้อ

พระองค์ทำความดีโดยที่ไม่ต้องบอกใคร พระองค์เป็นผู้ปิดทองหลังพระ พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างที่ดี สิ่งที่ผมทำก็ทำเพื่อถวายงานพระองค์ท่านเท่าที่ผมจะทำได้ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยและจะทำให้ดีที่สุดเพื่อพระองค์ท่าน”

ความรู้สึกที่ประทับใจต่อพ่อหลวง ร.9 

“พ่อแม่เคยพร่ำสอนมาว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 คือเจ้าเหนือหัว พระองค์ทำความดีทุกอย่าง ผมจึงรักพระองค์ท่านเปรียบเสมือนพ่อและแม่ที่ต้องเทิดทูนไว้เหนือหัวและเชิดชูพ่อหลวง ร.9 ให้อยู่สูงที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด และผมจะทำทุกอย่างที่เป็นความดีขอให้เป็นความดีผมทำได้ทุกอย่าง

ผมจะทำความดีเพื่อพ่อหลวง ร.9 ตลอดไป ถึงแม้ว่าความดีจะไม่มีใครเห็นผมก็จะทำเพราะผมมีพ่อหลวง ร.9 ที่ปิดทองหลังพระเป็นแบบอย่าง และพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนของพระองค์ทุกคน”

ถึงแม้ว่าการทำความดีโดยที่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นเสมือนปิดทองหลังพระ แต่เชื่อหรือไม่ว่าการกระทำดังกล่าวกลับกลายเป็นสิ่งที่น่านับถือและน่าจดจำที่สุด เสมือนทองคำเปลวแม้จะปิดไว้ส่วนไหนขององค์พระที่มองไม่เห็น แต่คุณค่าของทองคำเปลวก็ยังสวยงามและมีคุณค่าเสมอ เพราะความดีไม่มีเสื่อมสลาย ดั่งแบบอย่างที่เป็นที่รักของคนไทยทุกคน คือ พ่อหลวง ร.9 พระองค์ทรงปิดทองหลังพระทำความดีเพื่อราษฎรของพระองค์ทุกคน