หลวงพี่ตกใจ เพิ่งรู้ถูกพระเมียนมาสวมบัตรประชาชน นานกว่า 10 ปี

หลวงพี่ตกใจ เพิ่งรู้ถูกพระเมียนมาสวมบัตรประชาชน นานกว่า 10 ปี

หลวงพี่ตกใจ เพิ่งรู้ถูกพระเมียนมาสวมบัตรประชาชน นานกว่า 10 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังตำรวจเชียงใหม่ จับกุมชายชาวพม่าสวมบัตรประชาชนพระชาวไทย ความมาแตกเมื่อเจ้าของบัตรไปขอทำพาสปอร์ต แต่กลับพบว่าบัตรตัวเองกลายเป็นบัตรของคนอื่นไปแล้ว

(19 ต.ค.) พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ สปพ. เจ้าหน้าที่ ปคม. เจ้าหน้าที่ ปส. และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ตามแผนปฏิบัติการนครพิงค์ 60 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่เกิดกับนักท่องเที่ยว ในเขตจังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งหนึ่งในคดีที่สามารถจับกุมได้คือคดี ชายชาวพม่าสวมบัตรประชาชนพระสงฆ์ชาวเชียงใหม่ โดยจับกุมตัว นายหน่อ ไม่ทราบนามสกุล ชาวพม่า ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.661/2560 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นบุคคลผู้ปรากฏรูปใบหน้าของบุคคลอื่นในทะเบียนราษฎร์ หรือในข้อหาแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตร, ทำใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบฯ

เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายหน่อได้ทำการสวมบัตรประชาชนของ พระอัศรินทร์ ศิลาดำ และสวมรอยบวชเป็นพระอยู่ที่วัดท่ากระดาษ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากที่พระอัศรินทร์ตัวจริงมาขอทำพาสปอร์ตเพื่อจะเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศแคนาดา เมื่อปี 2558 จึงทราบว่าตนเองถูกสวมสิทธิ์บัตรประชาชน โดยพระอัศรินทร์ตัวจริงเล่าว่า ตนเองบวชเรียนตั้งแต่อายุ 14 ปี จึงไม่ได้ทำบัตรประชาชนและใช้ใบสุทธิของพระสงฆ์แทนสิทธิ์ในการติดต่อราชการทุกชนิด เมื่อทราบว่าตนโดนสวมสิทธิ์ก็รู้สึกตกใจ และขอขอบคุณทางตำรวจท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วยเหลือ สืบสวนจนพบตัวที่คนสวมสิทธิ์ โดยตนเองก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร เพราะไม่อยากให้เป็นเวรเป็นกรรม ถือว่าเป็นวิบากกรมของตนเองที่ได้มาเจอเรื่องเช่นนี้ เพียงต้องการขอสิทธิ์ของตัวเองคืนเท่านั้น

ด้านนายหน่อผู้ที่มาสวมสิทธิ์เล่าว่า ตนเป็นบวชเป็นพระแล้วเดินทางจากเมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมา มาที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นมีผู้มาเสนอจะทำบัตรประชาชนให้ โดยเรียกรับเงิน 15,000 บาท และต่อมาได้มาทำบัตรประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว พร้อมทั้งได้กล่าวขอขมาพระอัศรินทร์ตัวจริงที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook