บุกเดี่ยวจี้แบงก์บัวหลวงลาดพร้าวกวาดเงินกว่า3แสน

บุกเดี่ยวจี้แบงก์บัวหลวงลาดพร้าวกวาดเงินกว่า3แสน

บุกเดี่ยวจี้แบงก์บัวหลวงลาดพร้าวกวาดเงินกว่า3แสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรบุกเดี่ยวควงปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์แบงก์บัวหลวงย่านลาดพร้าว กวาดเงินกว่า 3 แสนขณะหลบหนีเจอ รปภ.ชักปืนยิงขู่แต่ไม่ยอมหยุดเลยถูกยิงร่วงก่อนถูกจับ ค้นในกระเป๋าพบบัตรระบุเป็นผู้บริหารศูนย์บริษัทประกันชีวิต

เหตุการณ์คนร้ายควงปืนปลอมบุกจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพแต่ถูก รปภ.ยิงเจ็บจนถูกจับกุมได้ ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 23 มีนาคม พ.ต.ท.วีรศักดิ์ สารบุญ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ภายในธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนนาคนิวาส เลขที่ 18/123 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานเขตลาดพร้าว โดยมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี พ.ต.อ.มันทาร อภัยวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (รอง ผบก.น.4) และ พ.ต.อ.บุญเพ็ญ มั่งคั่ง ผกก.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ศูนย์มนูธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เปิดเป็นธนาคารกรุงเทพ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยนาคนิวาส 12 ภายในธนาคารที่หน้าเคาร์เตอร์พบผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นคนร้ายที่บุกเข้ามาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์พนักงานของธนาคารได้รับบาดเจ็บ โดยถูกยิงเข้าที่ชายโครงด้ายซ้ายทะลุอกขวา นอนร้องครวญคราง สภาพสวมเสื้อลายสกอตสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีดำปิดบังใบหน้า สะพายกระเป๋าหนังสีน้ำตาล ใกล้กันพบอาวุธปืนตกอยู่ 1 กระบอก ตรวจสอบเป็นอาวุธปืนปลอม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล โชคชัย 4 ทราบชื่อต่อมาคือ นายภัทร ไชยสัตย์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/457 หมู่ 9 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.

จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายพบเงินสด 3.4 แสนบาท และบัตรประจำตัวพนักงานระบุว่านายภัทร เป็นผู้บริหารศูนย์บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของคนร้ายจอดอยู่ห่างจากธนาคารประมาณ 10 เมตร

สอบสวน นายกานต์ คงคาสี อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร ให้การว่า ระหว่างเกิดเหตุบริเวณเคาน์เตอร์ของธนาคารยังไม่มีลูกค้ามากนัก คนร้ายได้วิ่งเข้ามาในธนาคารโดยสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ก่อนจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เอาปืนจี้พนักงานผู้หญิงที่เคาน์เตอร์ และบอกว่า "หยุด นี่คือการปล้น" ทำให้พนักงานแตกตื่นตกใจ วิ่งหนีออกจากเคาน์เตอร์ จากนั้นคนร้ายก็เล็งปืนไปทางซ้ายทีขวาที เพื่อไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง ก่อนจะหยิบเงินที่เคาน์เตอร์ใส่กระเป๋าหนังสีน้ำตาลที่คนร้ายสะพายมาด้วย

"ระหว่างเกิดเหตุอยู่นั้น ผมอยู่ยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ตู้เอทีเอ็มในธนาคารตรงประตูทางเข้า ผมจึงบอกให้ลูกค้าในธนาคารทุกคนหมอบลง ขณะที่คนร้ายกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ออกมาเพื่อวิ่งหนีออกจากธนาคาร ผมจึงตัดสินใจชักอาวุธปืนประจำกายลูกโม่ขนาด .38 ยิงขู่ไปที่เคาน์เตอร์ก่อน 2 นัด เพื่อให้คนร้ายยอม แต่ปรากฏว่าคนร้ายก็ไม่ยอมหยุดนิ่งพยายามหนีต่อ ผมจึงยิงใส่คนร้ายอีก 3 นัด กระสุนถูกตัวคนร้าย 1 นัด ทำให้ล้มลงไปกองกับพื้น โดยระหว่างเกิดเหตุพนักงานของธนาคารก็กดสัญญาณฉุกเฉินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับทราบ อีกไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และเจ้าหน้าที่ศูนย์มนูธรรมเข้ามาหามคนร้ายขึ้นรถพยาบาลไปรักษาตัว" นายกานต์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายภัทรว่า จี้ชิงทรัพย์ ส่วนนายกานต์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร แจ้งข้อหาว่าใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสไว้ก่อน อย่างไรก็ตามในชั้นศาลก็อาจจะถูกยกฟ้อง เนื่องจากอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และเป็นเหตุซึ่งหน้า คนร้ายถืออาวุธปืน ซึ่งขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นปืนปลอม จึงจำเป็นต้องป้องกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่ส่งคนร้ายไปรักษาที่ รพ.เปาโลเมโมเรียล โชคชัย 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวคนร้ายมารักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ เบื้องต้นคนร้ายยังไม่สามารถให้ปากคำได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook