จนท.เข้าช่วยดราม่า "แม่ล่ามโซ่ลูก" เจ้าตัวทำไปเพราะลูกซนมาก
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/899/4495450/news20.jpgจนท.เข้าช่วยดราม่า "แม่ล่ามโซ่ลูก" เจ้าตัวทำไปเพราะลูกซนมาก

    จนท.เข้าช่วยดราม่า "แม่ล่ามโซ่ลูก" เจ้าตัวทำไปเพราะลูกซนมาก

    2017-12-05T15:24:48+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เจ้าหน้าที่ช่วยเด็กชาวพม่าที่ถูกแม่ล่ามโซ่ แม่อ้างต้องเลี้ยงลูกเยอะ แต่ลูกๆ ก็ซุกซนเกือบรถชนตายหลายครั้ง จำเป็นต้องล่ามโซ่เอาไว้

    (5 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว One Home เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจข้อเท็จจริงที่หน้าห้องพักแห่งหนึ่ง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากโลกโซเชียลแชร์แพร่ภาพขอความช่วยเหลือเด็กหญิงเด็กชายที่ถูกแม่ชาวเมียนมาล่ามโซ่ไว้หน้าห้องพัก ทำให้ผู้คนผ่านไปมาต่างเวทนาเป็นอย่างมาก

    เบื้องต้น ได้นำตัวแม่เด็กและพ่อเลี้ยง ชาวเมียนมา วัย 33 ปี พร้อมตัวเด็กทั้ง 2 คน มาลงบันทึกประจำวันว่ากล่าวตักเตือนที่ สภ.เมือง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นแม่ชาวเมียนมา ให้การเปิดเผยว่ามีลูก 4 คน ที่เกิดกับสามีเก่า 3 คน และเพิ่งมีลูกกับสามีใหม่คลอดได้แค่เดือนเศษๆ ก่อนหน้านี้ลูกๆ อยู่ที่เมียนมา แต่เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมาได้ไปรับลูกๆ 3 คน มาดูแลเอง ประกอบด้วยลูกชายคนโตอายุ 17 ปี ลูกชายคนรอง อายุ 9 ขวบ และลูกสาว วัย 7 ขวบ ที่ตกเป็นข่าวดังในโลกโซเชียล

    แต่เมื่อนำมาอยู่ด้วยกันพบว่าลูกวัยเด็กซุกซนมาก ชอบแอบหนีไปเล่นบนท้องถนน ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง และเกือบโดนรถชนหลายครั้ง ประกอบกับต้องเลี้ยงดูลูกวัยเดือนเศษ ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องล่ามโซ่ลูกทั้ง 2 คนไว้ เพื่อไม่แอบหนีไปซุกซนบนถนนอีก ที่ทำไปเพราะรักและห่วงใย ไม่อยากให้เกิดอันตรายกับลูก แต่ก็ไม่ทราบว่าจะจัดการลูกๆ อย่างไร

    น.ส.อัจฉรา สุระกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กล่าวหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่แจ้งกับแม่และพ่อเลี้ยงเด็กว่า จะนำเด็กหญิงวัย 7 ขวบ พร้อมกับเด็กชายวัย 9 ขวบ ไปดูฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็กและครอบครัว เนื่องจากเด็กอยู่ในอาการหวาดกลัวและอยู่ในอาการเครียดเป็นอย่างมาก ไม่ยอมพูดจากับใคร

    ส่วนแม่และพ่อเลี้ยงเจ้าหน้าที่จะยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีใดๆ เพียงว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลี้ยงลูก พร้อมกับประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม ทั้ง NGO ของเมียนมาที่ดูแลเรื่องสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของแรงงานชาวเมียนมาอยู่ เนื่องจากแม่เด็กต้องดูแลลูกทั้งหมดอยู่ใน จ.ภูเก็ต ไม่อยากให้กลับไปประเทศ เพื่อหาทางในการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมต่อไป