เพราะเหงาไม่มีแฟน ลุงช่วยตัวเองกลางเชียงใหม่ สารภาพจนมุม

เจอตัวลุงขี่รถช่วยตัวเองโชว์เด็กนักเรียนเชียงใหม่ สารภาพทำมาแล้ว 50 ครั้ง เพราะเหงาไม่มีแฟน ประกอบกับมีอารมณ์ทางเพศบ่อย

ความคืบหน้ากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้แชร์คลิปภาพของชายคนหนึ่งกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาว สวมหมวกกันน็อก อยู่บนถนนช้างม่อย มุ่งหน้าไปตลาดวโรรส อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยชายดังกล่าวได้ขับขี่ตามรถสี่ล้อแดงที่มีกลุ่มนักเรียนหญิงนั่งอยู่ พร้อมกับกระทำอนาจารช่วยตัวเอง กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมา ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ สามารถจับกุมตัว นายบัญชา อายุ 48 ปี ผู้รับเหมาระบบไฟฟ้า มาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหากระทำอันควรขายหน้า ต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น พร้อมเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 500 บาท ก่อนจะว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยตัวไป

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุและมีการโพสต์คลิปภาพลงโซเชียลมีเดีย เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยชายหนุ่มรายนี้ กระทั่งทราบหมายเลขทะเบียนรถที่ชายดังกล่าวขี่ขณะก่อเหตุคือ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ จึงขยายผลจึงติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในอำเภอสันทราย

นายบัญชา ให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วกว่า 50 ครั้ง เนื่องจากไม่มีแฟนจึงรู้สึกเหงาและเกิดอารมณ์ทางเพศบ่อยครั้ง เมื่อเกิดอารมณ์จึงออกมาก่อเหตุเช่นนี้เพื่อปลดปล่อยอารมณ์เปลี่ยวเหงา เบื้องต้นพร้อมยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา

ทางด้านเจ้าของคลิปให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. โดยน้องสาวที่เป็นนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ ได้นั่งรถสี่ล้อแดงจากโรงเรียน เพื่อไปต่อรถโดยสารระหว่างอำเภอที่คิวรถตลาดวโรรส ระหว่างผ่านย่านตลาดวโรรส พบชายคนดังกล่าวขี่จักรยานยนต์ตามมาด้านหลังรถและควักอวัยวะเพศออกมาช่วยตัวเองต่อหน้าต่อตา

โดยสังเกตว่าชายดังกล่าวตั้งใจโชว์ให้เด็กๆ ดู เนื่องจากมีการชะลอรถและไม่มีการแซงไป เมื่อเจอเหตุการณ์นี้ทำให้น้องสาวทั้งสองตกใจรีบโทรมาบอกตนด้วยเสียงสั่น ตนจึงบอกให้ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานและเพื่อให้ชายดังกล่าวกลัว แต่ก็ปรากฏว่าชายดังกล่าวไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงช่วยตัวเอง จนรถสี่ล้อแดงเลี้ยวเข้าไปในคิวรถ

ทั้งนี้ ผู้โพสต์บอกว่าต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับชายที่มีพฤติกรรมดังกล่าวเพราะถือเป็นภัยสังคม ก่อเหตุได้กลางถนน ส่วนน้องผู้เสียหายทั้งสองไม่ขอออกสื่อใดๆ เพราะยังเป็นเยาวชน