เปิดใจหนุ่มถูกเผาบ้าน ยอมรับติดหนี้ ท็อป ฮาวดี้ แต่ยังไม่ถึงกำหนดคืน
หนุ่มถูกท็อป ฮาวดี้ เผาบ้านเปิดใจเป็นหนี้จริง แต่ยังไม่ถึงกำหนดคืนตามสัญญา ไม่คิดเพื่อนจะทำรุนแรงกันขนาดนี้ กำลังเร่งทำงานรับจ้างปลดหนี้
จากกรณีที่ ท็อป ฮาวดี้ อายุ 26 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะลงมือก่อเหตุใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาบ้านของ นายหัส เพื่อทวงเงินจากลูกชายของนายหัส ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน พร้อมใช้คำพูดข่มขู่ว่ายืมเงินแล้วไม่คืนก็จะโดนเผาบ้านแบบนี้ กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์และถูกจับกุมได้ในที่สุด
ล่าสุด นายวรายุทธ อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูกจุดไฟเผาเพื่อทวงหนี้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง โดยยอมรับว่าเป็นหนี้แม่ของท็อปจริง จำนวน 10,000 บาท แต่ไม่ได้เป็นการกู้ยืม เป็นเงินที่แม่ท็อปนำมาจ่ายค่าประกันตัวให้กับท็อปและตัวเอง เพราะเคยถูกจับข้อหาเสพสารเสพติด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะต้องจ่ายค่าประกันตัวพร้อมกันทั้ง 2 คน
แต่ตอนนั้นตนเองไม่มีเงิน แม่ท็อปจึงออกเงินให้ก่อน แต่ให้ตนทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ว่าเป็นหนี้แม่ท็อป 10,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งในสัญญาระบุว่าให้ชำระคืนภายในวันที่ 10 ธันวาคม แต่ช่วงวันเกิดเหตุยังไม่ครบกำหนดวันที่จ่ายคืน แต่ท็อปก็มาเผาบ้านข่มขู่ดังกล่าว
อีกทั้งก่อนหน้านี้แม่ท็อปก็ยังให้ตนไปกรีดยางเพื่อใช้หนี้ แต่กรีดได้ 6 วันก็บอกให้หยุด จึงไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นแทน เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้ ตนไม่ได้มีเจตนาจะเบี้ยว เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้บอกครอบครัวเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ไม่สบายใจ แต่ไม่คิดเรื่องจะรุนแรงบานปลายขนาดนี้
นายวรายุทธ ยังกล่าวอีกว่า ไม่ได้เป็นหนี้ครอบครัวท็อปถึง 100,000 บาทและไม่เคยไปเอาเงินมาสร้างบ้านตามที่ท็อปกล่าวอ้าง ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ก็เพราะอยากให้สังคมเข้าใจ แต่ยอมรับว่ากลัวจะถูกท็อป กลับมาล้างแค้นหรือทำร้ายครอบครัวอีก เพราะท็อปเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง แต่ก็อยากถามท็อปว่า เป็นเพื่อนกันจริงไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้ หากตนอยู่ในบ้านแล้วถูกไฟเผาจะเป็นอย่างไร
หลังจากนั้น นายวรายุทธ ก็ได้ก้มกราบเท้าพ่อ เพื่อขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้ถูกเผาบ้านเสียหาย พร้อมรับปากกับพ่อว่าจะพยายามทำงานหาเงินมาใช้หนี้ จำนวน 10,000 บาท คืนแม่ท็อปให้ได้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก
ทางด้าน พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.แคนดง ระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในวันนี้ โดยที่ต้องเลื่อนส่งฝากขังเนื่องจากสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเสร็จไม่ทัน ซึ่งถึงขณะนี้ก็ยังไม่ญาติมายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด