ฉายาตำรวจ ปี 2560 ผบ.ตร.สายแข็ง น.1 ไม่บึ่งแล้ว

ฉายาตำรวจ ปี 2560 ผบ.ตร.สายแข็ง น.1 ไม่บึ่งแล้ว

ฉายาตำรวจ ปี 2560 ผบ.ตร.สายแข็ง น.1 ไม่บึ่งแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมฯ ตั้งฉายา ตร.ปี 2560 จักรทิพย์ ได้ ผบ.ตร.สายแข็ง, ชาญเทพ ได้ น.1 ไม่บึ่งแล้ว, สมหมาย ได้ มือปราบหมื่นล้าน

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เปิด 10 ฉายาตำรวจปี 2560 นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคม ผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร ร่วมกันแถลงฉายาตำรวจประจำปี 2560 จากผลการคัดเลือกและพิจารณา การปฏิบัติงานตลอดปีที่ผ่านมา 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "ผบ.ตร.สายแข็ง" ซึ่งมาจากข่าวลือเรื่องที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่สุดท้ายนายกรัฐตรีเป็นผู้ออกมาสยบข่าวลือ ประกอบกับการลงพื้นที่ไปควบคุมดูแลคดีใหญ่ด้วยตัวเอง จึงได้รับฉายานี้ 

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "มือปราบพระกาฬ" จากผลงานการปราบปรามคดีสำคัญ เช่น คดียูฟัน ที่ผู้ต้องหาถูกจำคุกกว่า 12,000 ปี และยังลงพื้นที่ไปจับกุมนายทุน ยึดบ้าน ที่ดินคืนลูกหนี้ เข้าไปดูแลคดีสำคัญอีกหลายคดีที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง 

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับฉายา "มือปราบหมื่นล้าน" จากผลงานจับกุมนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ต่อเนื่อง เช่น "เครือข่ายไซซะนะ" ที่ขยายผลต่อไปยังโรงงานผลิตยาเสพติดในประเทศเมียนมา ที่มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี

พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับฉายา "น.1 ไม่บึ่งแล้ว" เป็นการเปรียบเทียบการทำงานกับอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ผ่านมา ที่ไม่ค่อยเห็นไปตามสถานที่เกิดเหตุ นอกจากการแถลงข่าวที่ บช.น.เท่านั้น

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ฉายา "นายพลศูนย์เหรียญ" เนื่องจากว่าที่ผ่านมา ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนร่วมกันทลายและบุกเข้าตรวจค้น บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว จนมีการอายัดรถบัสนำเที่ยว 2,086 คัน และอายัดบัญชีเงินสดกว่า 90 บัญชี มูลค่ากว่า 13,000 ล้าน เพื่อดำเนินตรวจสอบเอาผิดกับผู้ที่เป็นเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่สุดท้ายศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องผู้ต้องหาเท่ากับว่าที่ทำมานั้นสูญเปล่าจึงเป็นที่มาของ ฉายา “นายพลศูนย์เหรียญ”

พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ฉายา "มือพิฆาตมารศาสนา" เนื่องจากว่าที่ผ่านมาท่านเดินหน้าตรวจสอบการทุจริต“เงินทอนวัด”โดยเปิดปฏิบัติการ บุกค้นบ้าน นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา หลังพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องการทุจริตเงินทอนวัด ซึ่งพบทรัพย์สินที่คาดว่าจะได้มาจากการทุจริตหลายรายการ และจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคงดำเนินการสืบสวนเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของ ฉายา “มือพิฆาตมารศาสนา”

พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา "แมนไทยลีก" เนื่องจากว่าที่ผ่านมาท่านผู้การมีชื่อเล่นว่า แมน และได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามสืบสวนคดี “ล้มบอลไทยพรีเมียร์ลีก” อย่างลับๆ จนสามารถหาข้อมูลและตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการล้มบอลเพื่อผลประโยชน์ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมในคดีได้เป็นจำนวนมากทั้งนักบอล กรรมการตัดสิน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการสืบสวนหาผู้บงการที่เกี่ยวข้องอีกแบบถอนรากถอนโคนจึงเป็นที่มาของ ฉายา “แมนไทยลีก”

พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา "นักสืบโลกลืม" เนื่องจากว่าเป็นนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการปิดคดีสำคัญหลายๆที่เกิดขึ้นในนครบาล ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ จะต้องเห็นนายตำรวจท่านนี้ไปนั่งเฝ้าหาข้อมูลเพื่อคลี่คลายคดีจนกระทั่งจับคนร้ายได้จึงถอนกำลังกลับที่ตั้ง แต่กลับกันการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาจะเห็นแต่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาแถลงข่าวส่วนพ.ต.อ.นพศิลป์ ไม่เห็นแม้แต่เงา เรียกได้ว่าท่านเป็นผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังจนงสำเร็จแทบทุกคดี จึงเป็นที่มาของ ฉายา “นักสืบโลกลืม”

พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.5 บก.ป.) ฉายา "เอ็ม5บ้าพลัง" จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถยนต์ กระโดดหนีจากห้องสอบสวนกองปราบปราม ซึ่งในขณะนั้นพ.ต.อ.ภูมินทร์ ได้ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งไล่ตามคนร้ายจนกระทั่งจับกุมตัวไว้ได้ แล้วได้จับผู้ต้องหาแบกขึ้นบ่านำตัวกลับมาส่งให้พนักงานสอบสวน จนปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆจึงที่เป็นที่ของฉายา "เอ็ม5บ้าพลัง" 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook