ชาวนาถูกหวย 12 ล้าน ขอมอบเงินช่วย รพ. ยันยังทำไร่ไถนาคงเดิม

​ชาวนาชาวบุรีรัมย์ ที่เพิ่งถูกรางวัลใหญ่ 12 ล้านมอบเงิน 1 ล้านให้ รพ.เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ยืนยันแม้มีเงินแต่ยังทำนาเลี้ยงวัวเหมือนเดิม

(24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบูรณ์ คงดี อายุ 54 ปี ชาว ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ อาชีพทำนาและเลี้ยงวัว ซึ่งเป็นผู้โชคดีที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา จำนวน 2 ใบได้รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท ล่าสุดได้เดินทางมาพร้อมครอบครัวญาติพี่น้อง ได้เดินทางมาทำพิธีบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลบุรีรัมย์ตามที่ตั้งใจไว้ เพื่อสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ยา เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เจ็บป่วยที่เข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาล

โดยมี นายแพทย์จรัญ ทองทับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนรับมอบเงิน และนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบเงินครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ นายสมบูรณ์ และครอบครัว ยังได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท ให้กับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อไว้ใช้ในกิจกรรมสาธารณะประโยชน์อีกด้วย โดยมี พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นตัวแทนรับมอบอีกด้วย

นายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ได้ทำบุญเพื่อช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยคนอื่น ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่สำหรับตนและครอบครัวมองว่ายังเป็นจำนวนที่น้อย หากเทียบกับการช่วยเหลือชีวิตคน ทั้งยังบอกอีกด้วยหากโชคดีถูกรางวัลอีกก็จะนำมามอบเงินให้กับโรงพยาบาลอีกเช่นกัน

ส่วนเงินรางวัลที่เหลืออีก 11 ล้านบาทก็วางแผนไว้ว่าจะเก็บไปสร้างบ้านใหม่ ไถ่ถอนที่นาที่นำไปจำนองไว้ ช่วงที่ภรรยาป่วย ซื้อรถยนต์ไว้สำหรับรับ-ส่งภรรยาไปฟอกไตที่โรงพยาบาล เพราะภรรยาจะต้องเดินทางจาก อ.พลับพลาชัย มาฟอกไตที่ รพ.บุรีรัมย์ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากมีรถยนต์ของตัวเองก็จะสะดวกในการเดินทาง

นายสมบูรณ์ ยังยืนยันว่า ถึงแม้จะมีเงินจากการถูกลอตเตอรี่กว่า 10 ล้านบาทแล้ว แต่ก็จะยึดอาชีพทำนาและเลี้ยงวัวควายเหมือนเดิม เพราะเป็นอาชีพที่รักและทำมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

ทางด้าน นายแพทย์จรัญ ทองทับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ได้ขอบคุณนายสมบูรณ์และครอบครัว ที่มีจิตอันเป็นกุศลด้วยการบริจาคเงินให้กับทาง รพ. ไว้สำหรับจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ยา สำหรับรักษาผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะขณะนี้ทั้งทาง รพ.บุรีรัมย์ และโรงพยาบาลหลายแห่ง ยังมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ