คดีไม่จบ ผู้ต้องหายิงเก๋งเสี่ยผ่านด่าน โอดเป็นแพะ-ขอความเป็นธรรม

คดีไม่จบ ผู้ต้องหายิงเก๋งเสี่ยผ่านด่าน โอดเป็นแพะ-ขอความเป็นธรรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติขอประกันผู้ต้องหายิงรถเสี่ยผ่านด่านเชียงราย แต่ถูกคัดค้าน เจ้าตัวร้องสื่อขอความเป็นธรรม เพราะตกเป็นแพะ วันนั้นมีคนยิง 3 คน ทำไมถูกจับอยู่คนเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดเชียงราย นายสุทธินันท์ พ่วงภิญโญ ทนายของ นายวุฒิชัย อายุ 46 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าเหียง หมู่ 14 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา กรณีคดียิงนายศรชัย อายุ 35 ปี ขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชนบ้านแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ท่าก๊อเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยญาติของนายวุฒิชัยอีกจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางขอยื่นประกันตัวนายวุฒิชัย อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวจึงไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด

ญาติคนหนึ่งของนายวุฒิชัย ซึ่งไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อและใบหน้า เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย ได้เปิดเผยว่า ได้พุดคุยกับนายวุฒิชัยแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้เป็นคนยิงคนตาย แต่ยอมรับว่าเป็นผู้ยิงจริง แต่เป็นการยิงปืนขึ้นฟ้า พร้อมบอกด้วยว่าวันนั้นมีคนยิงอยู่ด้วยกัน 3 คน แต่ทำไมต้องจับเขาเพียงคนเดียว

โดยในวันเกิดเหตุนั้น ชุดปฏิบัติหน้าที่มีอยู่ด้วยกันหลายฝ่ายที่มาช่วยกัน ซึ่งฝ่ายปกครองหรือคนที่ออกคำสั่งให้ไปปฎิบัติหน้าที่มีรายชื่ออยู่ โดยแต่ละวันจะผลัดเปลี่ยนกันไปหมู่บ้านละ 2 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งระยะนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดูแลความเรียบร้อยด้วย

ญาติของนายวุฒิชัย บอกด้วยว่า พอเกิดปัญหาแบบนี้ไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนเข้าไปช่วยเหลือหรือรับผิดชอบ ตอนนี้สิ่งที่ได้รับผลกระทบต่อตัวผู้ต้องหาเองก็คืออิสรภาพ ทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย รวมถึงญาติด้วยที่ต้องเสี่ยงภัย เพราะไม่รู้ว่าอารมณ์ของญาติผู้เสียชีวิต ไม่กล้าอยู่บ้าน กลัวจะถูกฆาตกรรม เพราะความเข้าใจผิด

จึงอยากร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อขอรับความเป็นธรรม ซึ่งตนก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะออกมาร้องเรียนเพื่อกระตุ้นหรือว่ากดดันหน่วยงานใดๆ เพียงแต่อยากให้สื่อทุกสื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและกระจายออกไปให้มีความยุติธรรม อยากให้คิดถึงทั้งสองฝ่าย อยากให้สอบถามข้อมูลทั้งสองฝ่ายมาหักล้างกัน หากได้ข้อมูลฝ่ายเดียวก็ขอเป้นข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นข้อมมูลที่เป็นความจริง

ทางด้าน นายสุทธินันท์ ทนายความฯ กล่าวว่า ได้รับทราบจากผู้ต้องหาว่าในคืนเกิดเหตุ มีรถผู้เสียชีวิตผ่านมา ตนจึงให้สัญญาณหยุด แต่รถไม่หยุดคาดว่าคงไม่ได้ยิน จึงยิงปืนขนาด 9 มม.ขู่ขึ้นฟ้า เพื่อเป็นการขู่ 3 นัด จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้ยินเสียงจากด้านข้างอีก 1 นัดโดยให้การกับพนักงานสอบสวนเช่นนี้มาตั้งแต่ต้น

รวมทั้งยังบอกว่ามีคนอื่นอีก 2 คนเห็นผู้ที่ใช้ปืนยิงด้วย ดังนั้นสิ่งที่รอคือเรื่องวิถีกระสุนและลูกกระสุนที่ฝังในศีรษะผู้เสียชีวิตเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นขนาด 9 มม.หรือไม่ ขณะที่ในวันดังกล่าวทั้งอาสาและทหารอยู่ด้วยกันด้วย โดยมีพยานบางคนเห็นเหตุการณ์ที่พร้อมจะเป็นพยานให้ว่าใครเป็นคนยิง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook