ตำรวจเตรียมนำ "ณิชา" เข้าเครื่องจับเท็จ สงสัยทำบัตรประชาชนหายบ่อย

ตำรวจเตรียมนำ "ณิชา" เข้าเครื่องจับเท็จ สงสัยทำบัตรประชาชนหายบ่อย

ตำรวจเตรียมนำ "ณิชา" เข้าเครื่องจับเท็จ สงสัยทำบัตรประชาชนหายบ่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีของ น.ส.ณิชา อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ถูกคนร้ายเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งรวม 9 บัญชี ทำให้น้องณิชาเป็นผู้รับเคราะห์เป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง ต้องติดคุกนาน 3 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวนั้น

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) น.ส.ณิชา ได้เดินทางมาจากกรุงเทพถึงศาลจังหวัดตาก ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก โดยมีบิดาและน้องชาย ติดตามมาให้กำลังใจ และเข้ารายงานตัวในทันที ในช่วงเวลา 09.00 น. จากนั้นเดินทางไป กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก พร้อม นายจิระศักดิ์ สุดสังข์ ทนายความ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก ประธานในการการสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์ดา สังขนิตย์ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เป็นหัวหน้าฝ่ายสอบสวนในคดีนี้

ขณะที่ พลตำรวจเอกธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า จนถึงขณะนี้ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า น.ส.ณิชา เป็นผู้ต้องหาจริงหรือเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากพบข้อสงสัยหลายประการทั้งทำบัตรหายบ่อยครั้งและมีเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 6 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก เปิดเผยว่า การควบคุมตัว น.ส.ณิชา มารายงานตัวต่อศาลจังหวัดตาก ทุก 6 วัน เป็นครั้งที่ 1 จากทั้งหมด 5 ครั้ง คงเหลือ อีก 4 ครั้ง พนักงานสอบสวน จะต้องเร่งการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ให้แล้วเสร็จในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยขณะนี้คณะทำงานที่ลงพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความคืบไปมาก ในส่วนของจังหวัดตากได้สอบสวนไปหมดแล้ว เหลือแต่รอหลักฐานจากคณะทำงาน 3 ชุดที่ลงพื้นที่ กรุงเทพฯ มาประกอบการพิจารณา หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จ ก็จะรวบรวมสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาทันที

ส่วนที่ น.ส.ณิชา จะขอให้ศาลพิจารณาในการรายงานตัวที่ศาลจังหวัดนนทบุรีนั้น ทางศาลไม่อนุญาตยังคงต้องมารายงานตัว ที่ศาลจังหวัดตาก ทุก 6 วัน จนกว่าจะครบอำนาจของพนักงานสอบสวน

ด้าน น.ส.ณิชา กล่าวว่า แม้ว่าจะสอบสวนเพิ่มเติม ใช้เวลายาวนาน ถึง 5 ชั่วโมง แต่ตนมีความสบายใจ ที่ให้ข้อมูลแก่คณะทำงานที่ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตั้งขึ้นมาเพื่อรับฟังข้อมูลของตนเอง ซึ่งตนชี้แจงและมอบหลักฐานทั้งหมด พร้อมกับการทดสอบแบบลายมือชื่อ เพื่อเปรียบเทียบกับรายมือคนร้ายตัวจริงที่ไปเปิดบัญชี พร้อมชี้แจงประเด็นเรื่องที่ตนเองทำบัตรหายบ่อยนั้น ยอมรับว่าตลอดชีวิตเคยทำหาย 3 ครั้ง คือเมื่อปี พ.ศ.2557 และ 2 ครั้งหลัง คือช่วงกลางเดือนกันยายน 2560 แต่เมื่อทำบัตรใหม่ไม่นาน ก็ถูกขโมยกระเป๋าและบัตรประชาชนหายในวันที่ 6 ต.ค.60 ซึ่งตนก็ชี้แจงข้อมูลไปตามเรื่องจริง และหากเจ้าหน้าที่จะเชิญเข้าเครื่องจับเท็จก็ยินดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook