ยิ่งสืบยิ่งผุด ผอ.โรงเรียนเป็นชู้ ม.2 พบเคยคบศิษย์ ป.6 มาก่อน

ยิ่งสืบยิ่งผุด ผอ.โรงเรียนเป็นชู้ ม.2 พบเคยคบศิษย์ ป.6 มาก่อน

ยิ่งสืบยิ่งผุด ผอ.โรงเรียนเป็นชู้ ม.2 พบเคยคบศิษย์ ป.6 มาก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผอ.โรงเรียนสุดอื้อฉาว เช้านี้ยังลาป่วยเพิ่มอีกวัน ขณะที่ยิ่งสืบยิ่งพบข้อมูลสุดสะเทือนใจ อดีตเคยคบหาเรื่องชู้สาวกับเด็ก ป.6 ใช้เงินปิดคดี ก่อนถูกสั่งย้ายมาคบเด็ก ม.2

(24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 ของโรงเรียน มีหลักฐานข้อความสนทนาแชท แต่ทางแม่ของเด็กนักเรียนหญิงออกมาเปิดใจว่ายังไม่เชื่อ จนกว่าจะได้ยินจากปากลูกสาว

ล่าสุด นายศุภพงษา จันทรังษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำกรรมการสถานศึกษา 4 คน นักเรียนชาย ม.3 ซึ่งเป็นอดีตแฟนหนุ่มของเด็กนักเรียนหญิง ม.2

รวมทั้งเชิญเพื่อนสนิทในชั้นเรียนอีก 2 คนของนักเรียนหญิง จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีมูลความจริงที่เข้าข่ายว่า ผอ.คนนี้มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิง ม.2 ในลักษณะให้ความสนใจน้องนักเรียนคนนี้เป็นพิเศษ ชอบพาไปไหนมาไหนแบบสองต่อสอง

ขณะที่คณะกรรมการฯ จะลงพื้นที่สอบปากคำพยานเพิ่มเติม เป็นครูประจำชั้น ครูผู้ควบคุมกิจกรรมออกค่ายลูกเสือ รวมถึงเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ อีก เพื่อหาข้อมูลอย่างละเอียด ขณะเดียวกันหากนักเรียนหญิง ม.2 มาโรงเรียน จะได้สอบปากคำเจ้าตัวในฐานะผู้เสียหายโดยตรง และเปิดโอกาสให้ ผอ.ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ติดต่อมายังครูธุรการของโรงเรียน เพื่อขอลาป่วยเพิ่มอีก 1 วัน และยังไม่ติดต่อมารายงานตัวต่อสำนักงานเขตพื้นที่นครราชสีมาเขต 6 แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ เคยดำรงตำรวจอยู่ที่โรงเรียนอีกแห่งในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ โดยเมื่อปี 2559 ก็เคยมีเหตุอื้อฉาวคบชู้กับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.6 ในลักษณะแบบเดียวกันนี้ ทำให้ภรรยาของผู้อำนวยการฯ ไม่พอใจต้องขอแยกทางกัน

กระทั่งต่อมาได้มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ สพป.นม.เขต 6 เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่มีกระแสข่าวว่า ผู้อำนวยการฯ ได้วิ่งเต้นเพื่อคดีจบ โดยได้เสนอเงินสดจำนวน 200,000 บาทให้ครอบครัวของเด็กหญิง เพื่อขอให้จบเรื่องราวอื้อฉาวดังกล่าว

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีคำสั่งย้ายให้มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนแห่งนี้ในปัจจุบัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ซึ่งใยขณะนั้นคณะกรรมการโรงเรียนและชาวบ้านก็ได้ทำหนังสือคัดค้านคำสั่งย้ายมาโดยตลอด เพราะได้รับรู้เรื่องราวอื้อฉาวที่เคยเกิดขึ้นจากโรงเรียนเก่า

แต่ด้วยความที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีเด็กนักเรียนไม่ถึงร้อยคน และยังหาผู้อำนวยการฯ มาแทนคนเดิมไม่ได้ จึงต้องจำยอมให้มาดำรงตำแหน่งนี้ในที่สุด ซึ่งขณะนั้นผู้อำนวยการฯ ก็เคยพูดกับคณะกรรมการของโรงเรียนว่า ทราบดีว่าทุกคนไม่พอใจ แต่ก็จะขอปรับปรุงตัวและพฤติกรรมใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ทางด้านครอบครัวของเด็กหญิง ม.2 ก่อนหน้านั้นแม่แท้ๆ ได้ทำอาชีพก่อสร้าง ซึ่งต้องเช่าห้องอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และได้คบหากับสามีใหม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงทำให้เด็กหญิง ม.2 ไม่อยากอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยงใหม่ และได้หนีไปอยู่กับครอบครัวของแฟนหนุ่ม ม.3 ที่เีรียนโรงเรียนเดียวกันแทน

เมื่อแม่ของเด็กหญิงรู้เรื่องเข้าจึงได้ตกลงยกลูกสาวให้เป็นลูกบุญธรรมของแม่เด็กชาย ม.3 นับตั้งแต่นั้นมา แม่ของเด็กชาย ม.3 ก็รักและเอ็นดูเด็กหญิง ม.2 เหมือนลูกสาวอีกคน โดยอนุญาตให้ลูกชายคบกับเด็กหญิง ม.2 อย่างเปิดเผย เพราะอยู่โรงเรียนเดียวกัน กลับบ้านก็มาช่วยงานที่บ้าน

แต่กระทั่งช่วงปลายปี 2560 หลังจากที่ผู้อำนวยการรายนี้เข้ามารับตำแหน่งแล้ว ก็เริ่มมีการติดต่อพูดคุยกับเด็กหญิง ม.2 กระทั่งความสัมพันธ์ถลำลึกถึงขั้นร่วมหลับนอนกันในรีสอร์ท เวลาต่อมาเด็กชาย ม.3 แฟนหนุ่มก็จับได้เพราะเห็นข้อความแชทในโทรศัพท์ ทำให้แม่ฝ่ายเด็กชายนำเรื่องมาเปิดเผยและร้องเรียนพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook