ประสพสุขให้คะแนนตัวเอง8ยันสภาสูงไม่ขัดแย้งรุนแรง
นายประสพสุข กล่าวว่า ตนได้วางหลักการทำงานในการทำหน้าที่ประธานคือ ยึดหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาลและความโปร่งใส เป็นธรรม ความเท่าเทียมกัน ความเป็นกลางและความกล้าหาญทางจริยธรรม สำหรับการประเมินผลงานในการดำรงตำแหน่งประธาน ตนคิดว่า พอใจ โดยน่าจะอยู่ที่ 8 จาก 10 คะแนน ส่วนนโยบายขององค์กรคือการมุ่งมั่นจะพัฒนาให้วุฒิสภาเป็นองค์กรนิติบัญญัติที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ บนพื้นฐานของข้อมูล และความรู้ทางวิชาการ เป็นที่พึ่งและวางใจของสังคมรวมถึงการทำงานเป็นทีม
นายประสพสุข กล่าวว่า สำหรับผลงานด้านการกลั่นกรองกฎหมาย วุฒิสภามีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ส่วนร่างพ.ร.บ. เห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร 3 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ 3 ฉบับ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วรอที่ประชุมพิจารณา 2 ฉบับ เลือกหรือให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรรัฐธรรมนูญ 4 เรื่อง และในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 10 เรื่อง ซึ่งแล้วเสร็จ 6 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 2 เรื่อง ถอนคืน 1 เรื่อง ระหว่างดำเนินการ 1 เรื่อง เสนอพิจารณาถอดถอนบุคคลออกจาตำแหน่ง 12 เรื่อง แล้วเสร็จ 1 เรื่อง อยู่ระหว่างป.ป.ช.ไต่สวน 9 เรื่อง อยู่ระหว่างผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนยื่นต่อประธานวุฒิสภา 2 เรื่อง พิจารณาญัตติ 17 เรื่อง กระทู้ถาม 149 กระทู้ ครม.ตอบแล้ว 46 กระทู้ ตกไป 64 กระทู้ รอบรรจุเข้าระเบียบวาระ 39 กระทู้
นอกจากนี้ นายประสพสุข กล่าวด้วยว่า ส่วนการไปดูงานต่างประเทศ ตนเป็นผู้ผลักดันเอง เพราะเห็นว่า เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศ เช่น กรรมาธิการพลังงานก็ไปดูเรื่องการใช้พลังงานปรมาณู หรือกรรมาธิการการยุติธรรมและตำรวจก็ไปดูงานเรื่องสิทธิมนุษยชน ระบบนิติรัฐของประเทศต้นแบบ และนำสิ่งต่าง ๆเหล่านี้มาปรับใช้
ผู้สื่อข่าวถามถึงว่า การทำงานของส.ว.ที่ผ่านมาไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่างคนต่างทำ รวมทั้งการทำงานของคณะกรรมาธิการอย่างน้อยๆ มี 2 คณะ ไม่สามารถทำงานได้ นายประสพสุข กล่าวยืนยันว่า วันนี้การทำงานของวุฒิสภาไม่มีความแตกต่างทั้งส.ว.สรรหาและส.ว.เลือกตั้งมีความเป็นเนื้อเดียวกัน รักใคร่กลมเกลียวกันอยู่แล้ว ซึ่งกรรมาธิการทุกคณะทำงานเป็นทีมไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงอย่างที่เป็นข่าว ทุกคนมุ่งทำงานเพื่อประเทศ
เมื่อถามว่า เมื่อครบการทำงาน 1 ปีจะเปิดโอกาสให้สมาชิกประเมินผลงานอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า ในการสัมมนาที่เขาใหญ่ในวันที่ 30-31 มีนาคม นี้ ในในช่วงบ่ายในวันที่ 30 มีนาคม จะเปิดโอกาสให้กับสมาชิกทุกคนแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์ติติงกันอย่างเต็มที่ว่า ตนและรองประธานทั้งสองคนมีผลการทำงานอย่างไร โดยเฉพาะตนก็คงจะถูกซักถามมาก พร้อมที่รับฟังข้อเสนอแนะ หากที่ประชุมมีมติและความคิดเห็นอย่างไรก็พร้อมที่จะพิจารณา
เมื่อถามย้ำว่า มีส.ว.ผู้ใหญ่หลายคนทักท้วงว่า การเปิดให้สมาชิกติติงการทำงานโดยเปิดเผยจะทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น นายประสพสุข กล่าวว่า คงไม่มีอะไร ตนยังยืนยันให้สมาชิกทุกคนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ในการสัมมนาที่เขาใหญ่ และจะไม่เปลี่ยนวิธีการ
