ลูกศิษย์ยังตามศรัทธา อดีตภาวนาพุทโธ บอกผ่านกรงอยู่คุกดีกว่าวัด นัทธี ชี้ไม่ได้ทำผิดระเบียบ

สอนธรรมในเรือนจำบางขวาง แต่งชุดนักโทษแดน 4 บรรยายผ่านลูกกรง บอกอยู่คุกดีกว่าอยู่วัด อ้อนขอบริจาคอีก 1.5 แสนเป็นทุนพระสงฆ์ไปศึกษาอินเดีย นัทธี ชี้เป็นความเชื่อศรัทธาไม่ได้ทำผิดระเบียบ

กรณีนักโทษชาย (น.ช.) จำลอง คนซื่อ หรืออดีต พระภาวนาพุทโธ อายุ 60 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพราน จ.นครปฐม ซึ่งถูกศาลพิพากษาตัดสินจำคุก 50 ปี ในข้อหากระทำผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี มาแล้วทั้งหมด 8 ปี ยังเหลือโทษอีก 42 ปี แต่ได้เกิดเหตุการณ์ ศรัทธาคนคุก เมื่อ น.ช.จำลองได้ปฏิบัติธรรม และสอนธรรมะ รวมทั้งสอนการนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ให้แก่เพื่อนผู้ต้องขัง ขึ้นในทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี จนขยายออกมาสู่คนนอกห้องขัง มีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ เข้าไปฟัง น.ช.จำลองไม่ต่ำกว่า 400-500 คน ภายในโซนเยี่ยมผู้ต้องขัง จนมีเงินจากการบริจาคฝากไว้ในบัญชีสูงถึง 14 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น

นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ถึงกรณีมีญาติธรรมจำนวนมากตามไปฟังการสอนธรรมของ น.ช.จำลอง หรืออดีตพระภาวนาพุทธโธ ในเรือนจำบางขวางว่า ปกติเรือนจำมีระเบียบการเยี่ยมว่าหากเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดจะจำกัดการเยี่ยมไม่เกิน 5 คน แต่ถ้าเป็นคดีทั่วไปแล้วแต่ดุลพินิจของ ผบ.เรือนจำแต่ละแห่ง ซึ่งแตกต่างกันตามความเหมาะสมของเรือนจำ ส่วนการเทศน์คงสั่งห้ามไม่ได้ เพราะเป็นเนื้อหาที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน หรือการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย

"ทางเรือนจำมองว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเชื่อ ความศรัทธา ของแต่ละบุคคล ไม่มีใครชี้นำได้ อีกทั้งทางเรือนจำคงไม่จำกัดสิทธิห้ามเข้าเยี่ยมหรือการบริจาคได้ เนื่องจากผู้ต้องขังทุกคนมีสิทธิให้ญาติเยี่ยมคนละ 15-30 นาทีอยู่แล้ว และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้สร้างความเดือนร้อน เพราะจะเดินเป็นแถวเป็นระเบียบ ปกติจะให้ผู้ต้องขังแต่ละประเภทช่วยงานเรือนจำแล้วแต่ความรู้ความสามารถที่มีติดตัวมา ก่อนจะเข้าเรือนจำ เช่น นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ผู้ต้องขังฆ่าภรรยาตัวเอง จะคอยช่วยงานแพทย์ในเรือนจำ" นายนัทธี กล่าว

นายนัทธี กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องเงินบริจาคในบัญชีกว่า 14 ล้านบาท เป็นเงินส่วนตัวแล้วแต่ความศรัทธา เรือนจำไม่สามารถห้ามได้ แต่ตามระเบียบเรือนจำ ผู้ต้องขังไม่สามารถใช้เงินสดในเรือนจำได้ แต่จะตรวจสอบการใช้เงินและพบว่ามีการนำเงินออกจากบัญชีไปใช้เพื่อการทำนุบำรุงศาสนาหลายครั้ง เช่น การสร้างศาลา ที่วัดจังหวัดนครปฐม ตรวจสอบบัญชีล่าสุดคงเหลือเงินในบัญชีประมาณ 8 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกันที่เรือนจำกลางบางขวางมีเหล่าบรรดาผู้ศรัทธา น.ช.จำลอง สวมเสื้อขาวและสีกรัก ต่างทยอยลงชื่อเพื่อเข้าเยี่ยมและรับฟังเทศน์กว่า 100 คน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าว มติชน ได้ไปสังเกตการณ์ที่เรือนจำบางขวาง เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าตั้งแต่เวลา 08.00 น. จะมีญาติโยมนุ่งขาวห่มขาวและนุ่งห่มผ้าสีกรัก จากจังหวัดต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะศิษยานุศิษย์จาก จ.นครปฐม นับได้ตั้งแต่ 100-200 คนขึ้นไป ส่วนมากเป็นหญิง อายุระหว่าง 20-70 ปี และมีพระสงฆ์ 7 รูป มาร่วมด้วย เพื่อมายื่นเอกสารลงชื่อเข้าเยี่ยมอดีตพระภาวนาพุทโธ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ เข้าไปในเรือนจำในส่วนที่จัดไว้ให้ญาติได้เยี่ยมผู้ต้องขัง โดยต่างปูเสื่อจับจองที่นั่งเพื่อฟังธรรม

กระทั่งเวลา 10.30 น. น.ช.จำลองในชุดเสื้อสีฟ้า กระเป๋าที่อกด้านซ้ายปักตัวเลข 4 ซึ่งหมายถึงอยู่แดน 4 และกางเกงขาสั้นสีขาว เดินพนมมือออกมาพบกับกลุ่มผู้เลื่อมใสในท่าทางสงบ ขณะที่กลุ่มผู้เลื่อมใสต่างจับจองที่นั่งให้ใกล้กับลูกกรงห้องขังให้มากที่สุดแล้วพากันพนมมือไหว้ และร่วมฟังธรรมจาก น.ช.จำลองที่พนมมือไว้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ศรัทธา และเมื่อกล่าวถึงตอนที่จับใจก็จะเปล่งเสียงพร้อมกันว่า สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ช.จำลองจะบรรยายถึงหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ พร้อมสอดแทรกอารมณ์ขันเป็นระยะๆ ไม่ตึงเครียด โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า พ่อขอให้ลูกทุกคนปฏิบัติศีล 5 อย่าได้ขาด ใครเป็นหนี้อย่าไปโกงเขาขอให้ใช้หนี้ ร่างกายของเราก็เหมือนป่าช้า มีแต่สิ่งที่สกปรก เราต้องมองให้เห็นความไม่เที่ยงของมัน

"พ่อมาอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวางดีกว่าอยู่วัดอีก เพราะมีคนคอยดูแล เงินก็ใช้ไม่ได้ ไม่ต้องมีกิเลส ใครมากล่าวหาพ่อ พ่อก็ไม่โกรธพวกเขาเหล่านั้น พ่อให้อภัยกับเขาเหล่านั้น ลูกๆ ทุกคนอยากให้พ่อออกจากการถูกคุมขัง พ่อรู้ดี แต่อย่าไปพาหมอตำแยมาหาพ่อนะ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกล่าวถึงตอนนี้บรรดาลูกศิษย์ ญาติธรรมพากันหัวเราะ จากนั้น น.ช.จำลองกล่าวกับลูกศิษย์ว่าคนไหนไม่ได้ไปธุดงค์ให้ยืนสงบจิต โดย น.ช.จำลองได้เดินนำพอเป็นพิธีให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นพูดคุยบอกกับลูกศิษย์ที่จะไปธุดงค์ให้ช่วยสอนธรรมะแก่ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหมดเวลาเยี่ยม น.ช.จำลองกล่าวกับกลุ่มผู้มาเยี่ยมญาติโยมทั้งหลายว่า ให้ช่วยกันบริจาคเงินจำนวน 150,000 บาท เพื่อเป็นทุนส่งให้พระสงฆ์ได้เดินทางไปศึกษาธรรมที่ประเทศอินเดีย และได้เรียกกลุ่มผู้เลื่อมใสซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มนุ่งขาวห่มขาว กลุ่มนุ่งห่มผ้าสีกรัก เข้าพูดคุยใกล้ๆ ตามลำดับ เพื่อสอบถามถึงการปฏิบัติธรรม และถามถึงสารทุกข์สุกดิบ หลังจากนั้นกลุ่มผู้เลื่อมใสต่างทยอยออกจากเรือนจำ

นายประเสริฐ อยู่สุภาพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่ นช.จำลองถูกคุมขังได้ประพฤติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้ต้องขังอื่นๆ ในแดน 4 ด้วยกัน และคดียังอยู่ระหว่างชั้นฎีกา ส่วนห้องเยี่ยมมีลูกกรงกั้นไม่ได้มีสิทธิอะไรพิเศษ สำหรับเรื่องฝากของเรือนจำ ผู้ต้องขังไม่สามารถเก็บเงินไว้กับตนเองได้ ญาติต้องนำมาฝากเข้าบัญชีของผู้ต้องขัง เมื่อรับฝากเสร็จ เรือนจำจะนำเงินไปฝากไว้ที่คลังจังหวัด หากผู้ต้องขังต้องการเบิกเงินมาใช้ ทางเรือนจำก็จะถอนให้ไม่เกิน 200 บาท ต่อคนต่อวัน แต่หากถอนมากกว่านี้ต้องยื่นคำร้องขอถอน แจ้งวัตถุประสงค์ว่าถอนไปเพื่ออะไร

ขณะที่กลุ่มแฟนคลับนับร้อยยังตามฟัง นช.จำลอง คดีข่มขืน ด.ญ.สอนธรรมในเรือนจำบางขวาง แต่งชุดนักโทษแดน 4 บรรยายผ่านลูกกรง บอกอยู่คุกดีกว่าอยู่วัด อ้อนขอบริจาคอีก 1.5 แสนเป็นทุนพระสงฆ์ไปศึกษาอินเดีย อธิบดีราชทัณฑ์ชี้เป็นความเชื่อศรัทธาไม่ได้ทำผิดระเบียบ ห้ามไม่ได้ เผยเงินในบัญชีเหลือ 8 ล้าน โอนไปทำบุญข้างนอก