คนมีสีเอี่ยวช่วยลูกสาวแป๋ง หลบหนีปลอมบัตรปชช.

คนมีสีเอี่ยวช่วยลูกสาวแป๋ง หลบหนีปลอมบัตรปชช.

คนมีสีเอี่ยวช่วยลูกสาวแป๋ง หลบหนีปลอมบัตรปชช.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เตรียม แกะรอย ขยายผลเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านผู้เสีย หายโผล่แจ้งความไว้ที่ สน.บางซื่อ ขณะ ตร.สภ.เมืองสมุทรสา ครฝากขัง ญาติไม่ยื่นประกันตัว 2 สามีภริยาเดินคอตกเข้าคุก

พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบก.ป.กล่าววันนี้ (27 มี.ค.) ถึงความคืบหน้าคดีนางกันต์กนิษฐ์ หรือปานจิต อังกินันทน์ หรือชิ้นศิริ อายุ 48 ปี บุตรสาวนายปิยะ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี หลายสมัย ที่สวมศพจากเหตุภัยพิบัติสึนามิที่เกาะพยาม จ.ระนอง เพื่อหลบหนีคดีฉ้อโกงนับพันล้านบาทว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. และพ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.ช่วยราชการ บก.ป. สืบสวนขยายผลประเด็นเรื่องเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับการไปขอมีบัตรประชาชนหรือทำเรื่องที่หน่วยงานราชการว่าเข้าข่ายความผิดฐานการให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานหรือไม่ รวมทั้งขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดหรือให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ด้วย

ผบก.ป.กล่าวถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนครั้งนี้ โดยเชื่อว่าน่าจะมีความรู้เรื่องการรวบรวมหลักฐานพอสมควร แต่ก็ไม่เหนือไปกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหลักวิชาการสืบสวนซึ่งหลักการสำคัญที่นำมาใช้ในคดีนี้คือ ยิ่งทำลายหลักฐานก็เท่ากับยิ่งเป็นการสร้างหลักฐานใหม่ และในการสืบสวนคดีนี้ใช้ตั้งแต่หลักพฤติกรรมศาสตร์ เช่น ชีวิตความเป็นอยู่ผู้ต้องสงสัย เส้นทางการเงิน เอกสารต่างๆ ที่สำคัญตัวเจ้าหน้าที่รัฐเองหากพบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดก็ไม่สามารถรอดพ้นการดำเนินคดีไปได้

"จากนี้ไปผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานที่ออกบัตรหรือเอกสารต่างๆ ให้กับผู้ต้องหา หรือมีเจ้าหน้าที่รายใดให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาก็ต้องถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพราะจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้" พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า หลังการจับกุมตำรวจได้ส่งตัวนางกันต์กนิษฐ์ และนายชาญชัย ชิ้นศิริ ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครในคดีร่วมกันฉ้อโกง ส่วนคดีตามหมายจับอีกหลายสิบหมายนั้นจะได้ประสานตำรวจท้องที่นั้นๆตรวจสอบว่าคดีหมดอายุความแล้วหรือไม่ หากยังไม่หมดอายุความก็ให้ทำเรื่องอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อ

"ทางกองปราบปรามจะสืบสวนขยายผลในเรื่องการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานกรณีจัดฉากการเสียชีวิตให้กับนางกันต์กนิษฐ์ โดยจะประสานพยานหลักฐานกับตำรวจ สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง ท้องที่เกิดเหตุและให้ทางตำรวจท้องที่เป็นผู้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับเรื่องการสวมบัตรประชาชนผู้อื่นนั้นก็จะได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดเจ้าของบัตรประชาชนแต่ละใบเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้หากพบว่า มีผู้กระทำผิดก็จะให้ต้นสังกัดนั้นๆเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจท้องที่นั้นๆ นอกจากการขยายผลเรื่องแจ้งความเท็จและบัตรประชาชนแล้วจะได้สืบสวนเชิงลึกถึงเส้นทางการเงิน การถ่ายโอนทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งสองด้วยซึ่งก็มีผู้เข้าให้ข้อมูลเบาะแสอยู่เรื่อยๆแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมทั้งผู้ที่ให้การช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่วยเหลือไม่ให้ถูกจับกุม การถ่ายโอนทรัพย์สิน หรือหาที่อยู่อาศัยให้นั้นก็จะถูกตรวจสอบด้วย ในเบื้องต้นมีผู้ให้เบาะแสว่ามีคนมีสีทั้งสองสีเกี่ยวข้อง" พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว

ผกก.5 บก.ป. กล่าวด้วยว่า นอกจากคดีตามหมายจับซึ่งมีผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจแล้วทางผู้เสียหายรายอื่นๆที่ทราบข่าวก็ได้ประสานข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกัน โดยล่าสุดมีผู้เสียหายจากหลายธนาคารเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางซื่อ ให้ดำเนินคดีกับนายชาญชัย แต่ในคดีดังกล่าวนายชาญชัยใช้ชื่อนายพงศวิทย์ ศรีวิทยพงศ์ ทำธุรกรรม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนบางซื่อได้ขออนุมัติหมายจับแล้วและจะได้อายัดตัวต่อไป ส่วนเรื่องเงินสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันชีวิตทั้งสองแห่งได้จ่ายไปแล้วนั้นทางบริษัทจะได้นำหลักฐานจากตำรวจไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอง

วันเดียวกัน สภ.เมืองสมุทรสาคร ตำรวจได้นำตัวนางกันต์กนิษฐ์ และนายชาญชัย ชิ้นศิริ ฝากขังผลัดแรกต่อศาลสมุทรสาคร มีรายงานด้วยว่าญาติได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้20 ล้านบาท เพื่อยื่นขอประกันตัว แต่สุดท้ายไม่มีการยื่นขอประกันบุคคลทั้งสองแต่อย่างใด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook