ศาลฎีกาฯยกคำร้องแม้วขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร

ศาลฎีกาฯยกคำร้องแม้วขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ศาลฎีกาฯไม่รับคำร้อง แม้ว ขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ บอกให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนพิจารณา 15 วัน นัดไต่สวนพยานครั้งแรก 16 ก.ค. ทักษิณ ส่งทนายฟ้อง รมว.ตปท.-เอเอสทีวี หมื่นประมาท กล่าวหาต้องการเป็นปธน. ล้มสถาบัน ไม่มีหตุผลอันควรศาลฎีกาฯยกคำร้องแม้วขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ผ่านวิดีโอ ทักษิณ ฟ้องหมิ่นฯกษิต-เอเอสทีวี

ศาลฎีกาฯชี้ยังไม่มีเหตุผลอันควรยกคำร้อง แม้ว ขอแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นัดคู่ความ 2 ฝ่ายอีกครั้ง 28 พ.ค.พร้อมไต่สวนพยานครั้งแรก 16 ก.ค. ทักษิณ ส่งทนายฟ้อง รมว.ตปท.-เอเอสทีวี หมื่นประมาท กล่าวหาต้องการเป็นปธน. ล้มสถาบัน

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มีนาคม เพื่อตรวจพยานหลักฐาน และฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ 14/2551 ที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ และได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 76,627,603,061.05 บาท พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน

เม่อเริ่มการพิจารณาอัยการ ผู้ร้อง แถลงขอนำพยาน 58 ปากเข้าไต่สวน ใช้เวลา 25 นัด ส่วนทนายความฝ่ายผู้คัดค้านและผู้ถูกกล่าวหา แถลงขอนำพยาน 56 ปากเข้าไต่สวนหักล้าง ใช้เวลา 25 นัด โดยศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนฝ่ายผู้คัดค้านและผู้ถูกกล่าวหาก่อน ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา มาตรา 35 วรรค 1 และข้อกำหนดศาลฎีกาฯ ข้อ 26 โดยนัดพร้อมคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง วันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 09.30 น. และให้นัดไต่สวนพยานในวันที่ 16, 23 และ 30 กรกฎาคม วันที่ 6,13, 20 และ 27 สิงหาคม วันที่ 1, 3, 8, 10, 15, 17, 22, 24, และ 29 กันยายน วันที่ 1, 6, 8, 13, 15, 20, 22, 27 และ 29 ตุลาคม วันที่ 3, 5, 10, 12, 17 และ 19 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น. พร้อมกำชับให้คู่ความนำพยานมาเบิกความตามนัด เพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหายื่นคำร้องขอแถลงเปิดคดีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นั้น ศาลเห็นว่า กรณียังไม่มีเหตุอันควร จึงมีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้ผู้ถูกกล่าวหาจัดคำแถลงเปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนการพิจารณาคดีครั้งแรก 15 วัน

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความผู้รับมอบอำนาจ จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม และสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยศาลรับเป็นคดีดำและนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 1 มิถุนายน

นายอุดมกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3, 11 และ 29 พฤศจิกายน 2551 นายกษิตขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันมีข้อความพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ทำนองว่า ...ทักษิณ โลภนักอยากจะเป็นเจ้าแห่งการทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่มันดีงามในสังคมไทย เพราะฉะนั้นคุณทักษิณอยากจะกลับมาอีก ที่ฝันจะมาเป็นประธานาธิบดี หรือจะมาสถาปนาราชวงศ์ใหม่ของประเทศไทย... และยังมีข้อความอื่นๆ อีก ในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการล้มล้างสถาบัน อันเป็นความเท็จทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับความเสียหาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook