2ผัวเมีย ปั่นสองล้อมาราธอน 4ประเทศ

2ผัวเมีย ปั่นสองล้อมาราธอน 4ประเทศ

2ผัวเมีย ปั่นสองล้อมาราธอน 4ประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

2ผัวเมียเมืองเชียงใหม่ ปั่นจักรยานเผยแพร่วัฒนธรรมล้านนา จากอ.สันกำแพง เยือนประเทศเพื่อนบ้านพม่า-ลาว-เวียดนาม-จีน ระยะทางนับแสนกิโลเมตร รวม 35 วัน เผยเดินทางแบบค่ำไหนนอนนั่น ไม่นอนโรงแรม อาศัยเต็นท์เป็นที่พัก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่บริเวณถนนวงแหวนบ่อสร้าง-ดอยสะเด็ก หมู่ 2 ต.ต้นเปา อ.สัน กำแพง จ.เชียงใหม่ นายสุชาติ พรหมพันธ์ อายุ 54 ปี อดีตข้าราชครูผอ.โรงเรียนสบแม่รวม อ.แม่แจ่ม พร้อมด้วยนางสุรางค์ พรหมพันธ์ อายุ 51 ปี ประธานกลุ่ม อสม.บ้านออนใต้ ซึ่งเป็นภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 157 บ้านแพะออนใต้ หมู่ 11 ต.ออนใต้ เตรียมออกเดินทางด้วยจักรยานไปยังจังหวัดต่างๆ และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนศิลปะการเล่นดนตรี รวมทั้งถ่ายทอดการทำอาหารพื้นเมืองเหนือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งคู่เดินทางด้วยจักรยานเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมมาแล้ว 3 ครั้ง ล่าสุดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยกำหนดออกเดินทางจากอ.สันกำแพง เชียง ใหม่ เพื่อเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านพม่า ลาว เวียดนาม จีน และหัวเมืองต่างๆ รวม 35 วัน ระยะทางประมาณหลายพันกิโลเมตร

นายสุชาติ หรือครูชาติ กล่าวก่อนที่จะออกเดินทางโดยปั่นจักรยานไปประเทศเพื่อนบ้านว่า ได้อยู่กินกับภรรยามานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่พ.ศ.2522 มาจนถึงวันนี้ ตนเองและภรรยาสนใจหันมาปั่นจักรยานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 เป็นต้นมา เพราะตนเองไม่เคยชอบใช้รถชนิดอื่นนอกจากจักรยานเท่านั้น

"ก่อนนั้นผมเคยเดินทางไป จ.กระบี่ โดยขี่จักรยานเพื่อไปเรียนครูที่วิทยาลัยครูจังหวัดภูเก็ต รุ่นปี 2515-2519 เป็นครูครั้งแรกสอนที่โรงเรียน ต.บางกรัก จ.พัง งา ย้ายมาสอบที่เชียงใหม่เมื่อปี 2524 สอนที่โรงเรียนหนองบัวคำ อ.ดอยเต่า ตำแหน่งครั้งสุดท้ายเป็นผอ. โรงเรียนสบแม่รวม ระหว่างรับราชครูนั้น ได้รับรางวัลผู้บริหารดีเด่นเมื่อปี 2546 และได้รับรางวัลผู้สร้างคุณงามประโยชน์แก่สังคม 2 ครั้ง ที่มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ กทม.จากนั้นลาออกจากราชการครูเมื่อปลายปี 2546 ก่อนจะพบรักกับนางสุรางค์ ชาวอ.สันกำแพง" นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติ หรือครูชาติ กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2547-2550 ปั่นรถจักรยาน 2 ล้อไปหลายประเทศรวม 3 ครั้งนับแสนกิโลเมตร ที่เดินทางปั่นจักรยาน 2 ล้อไปครั้งนี้ จะสอนดนตรีแก่ผู้คนที่สนใจระหว่างที่เดินทางไปจาก อ.สันกำแพงเชียงใหม่ ผ่านไปทุกอำเภอจังหวัดและในต่างประเทศ ส่วนภรรยาจะสอนทำอาหารไทยและพื้นเมืองทุกอย่าง เพื่อให้คนต่างประเทศรู้ถึงอาหารไทยวัฒนธรรมประเพณีของไทยเรา เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน การเดินทางไปครั้งนี้ค่ำไหนนอนนั่น ไม่มีพักนอนที่โรงแรมโดยกางเต็นท์นอน เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

"ผมมีคติประจำใจว่า เรายังมีชีวิตอยู่ยังเดินทางไปได้ทำความดีเอาไว้ จะต้องทำตัวให้มีประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติที่เราอาศัยอยู่และเพื่อนร่วมโลก นอกจากนั้นเพื่อทบแทนคุณของแผ่นดินที่เราอยู่จนกว่าชีวิตจะหาไม่ จะให้ความรู้ที่เรามีอยู่สอนผู้ที่อยากรู้ หลังกลับมาถึงบ้านเข้าหน้านาพอดี ก็จะทำนาต่อไป" นายสุชาติ กล่าว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook