พาณิชย์แนะไทยตี 5 ตลาดเอฟทีเอ

พาณิชย์แนะไทยตี 5 ตลาดเอฟทีเอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ชี้สินค้าได้สิทธิส่งออกเสียภาษี 0% แรงซื้อยังดีทั้งผัก-เพชร-ยานยนต์ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกไทยต้องหันมาส่งออกสินค้าไปประเทศที่ได้สิทธิพิเศษภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) 5 กลุ่มประเทศ คืออาเซียน-จีน ไทย-อินเดีย ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์ และเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ให้มากขึ้นในช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เพราะประเทศเหล่านี้ยังมีกำลังซื้อ ที่สำคัญสินค้าไทยยังได้รับยกเว้นภาษี หรือถูกเก็บในอัตราต่ำกว่าประเทศคู่แข่ง และยังช่วยป้องกันการถูกมาตรการกีดกันทางการค้าจากทั่วโลก กีดกันนำเข้าสินค้าไทย

แม้ภาพรวมการใช้สิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นทุกความตกลงฯ แต่พบว่าการใช้สิทธิยังไม่เต็มที่ เมื่อเทียบกับสิทธิประโยชน์ที่ไทยได้รับจากประเทศคู่เจรจาต่าง ๆ ผู้ส่งออกสามารถเร่งรัดการใช้สิทธิได้ ซึ่งกรมฯ จะผลักดันให้มีการใช้สิทธิรบทั้ง 100% ให้ได้ โดยผู้ส่งออกสามารถใช้ข้อได้เปรียบจากการลดภาษี ทำให้สินค้าไทยมีต้นทุนต่ำกว่าประเทศคู่แข่งขัน และสามารถใช้สิทธินำเข้าวัตถุดิบราคาถูกมาผลิตเป็นสินค้าเพื่อส่งออกได้ ซึ่งสามารถขอใบอนุญาต และตรวจสอบรายละเอียดได้ www.dft.go.th หรือโทร. 1385

สำหรับสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์มีหลายรายการ ทั้งกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาห กรรม โดยตลาดจีนนอกจากผัก และผลไม้ สินค้าที่มีศักยภาพส่งออก ได้แก่ โพลิอะไมด์ ด้ายทำด้วยยางวัลแคไนซ์ ถุงมือทำด้วยยาง ส่วนประกอบวิดีโอ หลอดภาพแคโทเดรย์ เป็นต้น ตลาดญี่ปุ่น ได้แก่ เนื้อไก่และเครื่องในไก่ที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย เนื้อปลาแช่เย็นแช่แข็ง เดกซ์ทรินและโมดิไฟด์สตาร์ช และผลิตภัณฑ์กุ้ง ตลาดอินเดีย คือ อะลูมิเนียมเจือ เครื่องรับโทร ทัศน์สี เครื่องเพชรพลอยทำด้วยโลหะมีค่า

ส่วนยอดการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้เอฟ ทีเออาเซียน-จีน เมื่อปี 51 ที่มีภาษีเป็น 0% มี 562 รายการ โดยขอใช้สิทธิมูลค่า 528.62 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ส่งออกจริง 495.57 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 18.71% กลุ่มสินค้ากลุ่มเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรม พิกัด 09-99 ขอใช้สิทธิลดภาษีมูลค่า 1,161.93 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.83% ส่วนเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น ไทยออกหนังสือรับรอง 92,814 ฉบับ มูลค่า 4,507.30 ล้านเหรียญ ขณะที่นำเข้า 1,499.58 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 71.29% ของมูลค่านำเข้า

ด้านเอฟทีเอไทย-อินเดีย มีการส่งออกสินค้า 82 รายการ มูลค่า 498.15 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.22% ส่วนการนำเข้ามูลค่า 168.65 ล้านเหรียญ เพิ่ม 100.80% สินค้าขยายตัวมาก เช่น ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook