ส.ป.ก.หนุนโครงการปศุสัตว์ปลอดโรค หวังส่งตลาดนอก

ส.ป.ก.หนุนโครงการปศุสัตว์ปลอดโรค หวังส่งตลาดนอก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 มีนาคมว่า นับตั้งแต่มีการซื้อ ขายโคเนื้อระหว่างวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา ขณะนี้มีชุมชนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในเขตปฏิรูปที่ดินมากกว่า 2,000 กลุ่ม มีโคเนื้อในระบบการจัดการประมาณ 100,000 ตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการจะพัฒนาเพื่อขยายโอกาสในการทำตลาด ทั้งระหว่างกลุ่มวิสาหกิจกันเองและองค์กรภายนอก เช่น บริษัทเอกชน ตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันเกษตรกรมากยิ่งขึ้นและเพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานแก่โคเนื้อ ส.ป.ก.จึงได้ร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ทำโครงการรณรงค์ชุมชนปลอดโรคในเขตปฏิรูปที่ดินขึ้น

นายทฤษฎี ชาวสวนเจริญ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อแก่วิสาหกิจชุมชนที่ส.ป.ก.จัดตั้งขึ้นทั่วประเทศในปี 2552 นี้ กรมปศุสัตว์ได้ให้ความรู้แก่เกษตรกรเรื่องเทคนิคการเลือกซื้อโคเนื้อที่ถูกต้อง ตลอดจนการจัดการเพื่อดูแลโคเนื้อที่เคลื่อนย้ายเข้าสู่ฟาร์ม รวทั้งการฉีดวัคซีน ทำเครื่องหมายประจำตัว การรับรองสถานที่กักโรค การจัดหาอาหารและเสบียงสัตว์ ติดตามดูแลตลอดเส้นทางการเคลื่อนย้ายจนถึงฟาร์มเกษตรกรที่ปลายทาง

นอกจากนี้ยังได้กำหนดมาตรการการจัดการเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตปศุสัตว์ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ อาทิ เร่งรัดและสร้างโอกาสในการเข้าถึงความรู้และเทคนิคการผลิตแก่เกษตรกร , จัดสร้างศูนย์เรียนรู้และฟาร์มต้นแบบเพื่อเป็นตัวอย่างในการเลี้ยงโคเนื้อที่ถูกต้อง , เร่งรัดปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อ ขยายหน่วยและพื้นที่บริการผสมเทียมให้ครอบคลุมทุกวิสาหกิจชุมชน , สนับสนุนการเตรียมการและแก้ไขปัญหาด้านอาหารโค , สนับสนุนการจัดตั้งหน่วยบริการสุขภาพสัตว์ระดับตำบล เป็นต้น

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า การได้รับความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมจากกรมปศุสัตว์ในการทำชุมชนปลอดโรครวมถึงการพัฒนาสุขภาพสัตว์ เป็นสิ่งที่ต้องการให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเข้าใจวิธีการปฏิบัติต่อปศุสัตว์อย่างถูกต้อง พร้อมกับเข้าใจว่าโรคระบาดสัตว์เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากเกิดขึ้นแล้วการแก้ปัญหาจะเป็เรื่องใหญ่ ดังนั้น การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยคาดว่าจะเริ่มขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ชุมชนปลอดโรคในเขตปฏิรูปที่ดินในเดือนเมษายน ศกนี้ และภายใน 1 เดือน เมื่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เห็นด้วยว่าพื้นที่ใดมีระบบการควบคุมโดยชุมชนที่ชัดเจน ส.ป.ก.จะได้ประกาศให้ชุมชนเหล่านั้นเป็นพื้นที่สีเขียวหรือชุมชนปลอดโรค หากกลุ่ม ฯ ใดไม่ได้รับการรับรองให้เป็นเขตปลอดโรค อาจจะเสียสิทธิ์ในการจำหน่ายโคเนื้อได้

"ทางภาคใต้มีเกษตรกร 166 กลุ่ม ที่ส.ป.ก. ต้องการพัฒนาการเลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่ปาล์มน้ำมันและพื้นที่ยางพาราทางภาคใต้ให้เป็นต้นแบบชุมชนมาตรฐานปลอดโรค ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นนอกจากรายได้จากปศุสัตว์และปุ๋ยอินทรีย์แล้ว ยังได้มาตรฐานเพื่อการส่งออกปศุสัตว์ อย่างเช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งให้ความสำคัญและประสงค์ปศุสัตว์จากประเทศไทยมาก นายอนันต์กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook