ปฏิบัติเยี่ยงทาส : สิ่งเลวร้ายใช้แรงงานเด็ก

ปฏิบัติเยี่ยงทาส : สิ่งเลวร้ายใช้แรงงานเด็ก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ในการสัมมนา แนวทางการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์แรงงานภาคประมง ณ โรงแรมเอเชีย ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ของสังคมในการเฝ้าระวังป้องกัน มิให้ตกเป็นเหยื่อเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ ตลอดจนเร่งแก้ปัญหาและหาทางป้องกันการล่อลวงไปเป็นแรงงานทาสบนเรือประมง นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ประเทศไทยเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ 3 สถานะคือ เป็นประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทาง ทั้งเรื่องการบังคับค้าประเวณี ใช้แรงงานอย่างทารุณ บังคับให้เร่ร่อนขอทาน รวมถึงการลักพาตัวเพื่อแสวงประโยชน์ผิดกฎหมาย โดยมีเด็กและสตรีเป็นกลุ่มเสี่ยงมากสุด แต่ปัจจุบันพบว่ามีเหยื่อที่เป็นชายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการถูกลวงไปเป็นแรงงานทาสบนเรือประมง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความ ทำให้เข้าไม่ถึงความช่วยเหลือของภาครัฐ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตระหนักและเห็นความสำคัญของปัญหานี้ จึงตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อศึกษาแนวทางมาตรการในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงานประมง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม หวังว่าข้อมูลที่ได้รับ จะสามารถนำไปสู่การดำเนินงานแก้ไข ป้องกันเชิงรุกไม่ให้คนตกสู่กระบวนการค้ามนุษย์ และเข้าถึงความช่วยเหลือได้มากขึ้น รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าว ดร.สุวจี กู๊ด ผู้จัดการโครงการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กในประเทศไทย องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การบังคับใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด ว่า ตามอนุสัญญาสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติซึ่งประเทศไทยได้ลงสัตยาบันไว้ ให้ความหมายว่า เด็กคือผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยงานที่ทำได้ต้องไม่อยู่ในข่ายที่กฎหมายห้าม เช่น งานเหมือง งานก่อสร้าง โรงงานผลิต งานไฟฟ้า แก๊ส ประปา ฯลฯ ส่วนงานที่อนุญาตให้เด็กอายุ 12-14 ปี ทำได้ต้องไม่เกิน 14 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และต้องเป็นงานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก ไม่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาหรือฝึกอาชีพและไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก ผู้จัดการโครงการแก้ไขปัญหาแรงงานเด็กในประเทศไทยฯ กล่าวว่าตามที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 182 ว่าด้วยรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก และมีการกำหนดนิยามของแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดไว้ โดยระบุว่า รูปแบบที่เลวร้ายของการทำงานของเด็ก คือ งานทุกรูปแบบของการใช้ทาสหรือแนวปฏิบัติคล้ายการ ใช้ทาส, การใช้ จัดหา หรือเสนอเด็กเพื่อการค้าประเวณี ผลิตสื่อลามก หรือเสนอเด็กเพื่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการผลิตหรือขนส่งยาเสพติด ซึ่งถือว่าร้ายแรงมาก และงานที่สภาพแวดล้อมมีแนวโน้มเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ความปลอดภัย ศีลธรรมของเด็ก เหยื่อแรงงานภาคประมงถือว่าเป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด เหยื่อถูกบังคับหน่วงเหนี่ยว ไม่มีเวลาพัก ถูกทำร้ายร่างกาย ทำงานเกินตัว ไม่ได้รับการรักษาที่ดียามเจ็บป่วย ฯลฯ รองลงมาคือภาคเกษตร เด็กได้รับสารเคมีเข้มข้นในเลือดสูงมาก แม้ไม่ได้ทำงานแต่อาศัยอยู่ในไร่ก็ได้รับสารเคมีแล้ว และงานภาคบริการ สถานบันเทิง คาราโอเกะ เด็กเริ่มทำงานจากหลังร้านก่อนเป็นพนักงานเสิร์ฟหน้าร้านและเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณีในที่สุด เด็กที่พบอายุต่ำสุดเพียง 11 ขวบ โดยส่วนใหญ่ตามร้านคาราโอเกะใน อ.เมือง ต่างจังหวัดเกือบทุกจังหวัดจะพบเด็กกลุ่มนี้ ส่วนในกรุงเทพฯมักเป็นเด็กอายุ 14-15 ปี ทำงานในรูปเด็กเชียร์เบียร์ซึ่งบางแห่งแฝงการค้าประเวณี รวมถึงแรงงานบ้านทั้งที่เป็นคนไทยและเด็กข้ามชาติด้วยที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง ช่วยเหลือได้ยากหากไม่ได้รับเบาะแส ดร.สุวจี กู๊ด กล่าว.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook