ศาลสั่งยึดทรัพย์ กำนันเป๊าะ กว่า 10 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน

ศาลสั่งยึดทรัพย์ กำนันเป๊าะ กว่า 10 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน

ศาลสั่งยึดทรัพย์ กำนันเป๊าะ กว่า 10 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์กำนันเป๊าะและครอบครัว 11 ล้านบาทเศษ ได้มาจากทุจริตเขาไม้แก้ว ส่วนของลูกสาว 18 บัญชี 20 ล้านเศษ ศาลให้คืนเชื่อเป็นบัญชีเงินฝากกินดอกเบี้ย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ผู้กว้างขวางในจังหวัดชลบุรี ผู้ต้องโทษจำคุกคดีทุจริตเขาไม้แก้ว นางยุพิน หรือสติล คุณปลื้ม ภรรยา และนายวิทยา คุณปลื้ม บุตรชาย รวม 11 รายการ เป็นจำนวนกว่า 11,000,000 บาทเศษ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน และให้คืนทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีธนาคาร 18 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 20,000,000 บาทเศษ คืนให้แก่นางจิราภรณ์ คุณปลื้ม บุตรสาว

คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายสมชาย กับครอบครัว รวม 29 รายการ มูลค่า 30,136,418.05 บาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์และศาลจังหวัดชลบุรีลงโทษจำคุก นายสมชาย เป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน ในความผิดฐานทุจริตซื้อที่ดินในเขตป่าสงวน ต.เขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี ตามคำร้องสรุปว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.)ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อที่ดินดังกล่าวแล้ว เชื่อว่านายสมชาย กับพวก ร่วมกันกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการและความผิดใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวซึ่งมีหลักฐานเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดตกเป็นของแผ่นดิน

โดยศาลพิเคราะห์คำเบิกความพยานหลักฐานที่ทั้งฝ่ายนำสืบพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีของนายสมชาย จำนวน 1 บัญชี จำนวน 300,000 บาทเศษ ของนางยุพิน จำนวน 9 บัญชี จำนวนเงินประมาณ 10 ล้านบาทเศษ และของนายวิทยา จำนวน 3,000 บาทเศษ รวมทั้งสิ้น 11 บัญชี รวมจำนวนประมาณ 11 ศาลบาทเศษ ได้มาจากการกระทำความผิด จึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของนางจิราภรณ์ จำนวน 18 บัญชี จำนวนประมาณ 20,000,000 ล้านบาทเศษ นั้นเห็นว่าเป็นบัญชีเงินฝากเพื่อรับดอกเบี้ยธนาคารตามปกติ ไม่มีหลักฐานว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการทำความผิด จึงมีคำสั่งคืนให้นางจิราภรณ์

 ภายหลัง นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ กล่าวว่า จะคัดคำพิพากษาไปรายงานให้กับนางยุพิน และนางจิราภรณ์ ทราบ และนำไปศึกษาเพื่อยื่นอุทธรณ์ในส่วนของทรัพย์ 11 รายการ มูลค่า 11 ล้านบาทเศษ ที่ถูกยึดต่อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook