โฆษณาออนไลน์

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มแบบทวีคูณ ธุรกิจออนไลน์ขยายตัวอย่างมีนัย เสิร์ชเอนจิ้น (เครื่องมือสืบค้นข้อมูล) เก่งกาจมากขึ้น เป็นแรงขับที่ทำให้โฆษณาออนไลน์เป็นทางเลือกที่ธุรกิจการค้าต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญ

ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่อาศัยเว็บไซต์เป็นกลยุทธ์หลายราย ยอมรับว่าเงินทองเป็นกอบเป็นกำที่ไหลมาเทมา ก็เพราะตัดสินใจใช้เครื่องมือชิ้นใหม่ในวงการโฆษณาดึงลูกค้า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำแต่ผลตอบแทนน่าพอใจ วัดผลได้ชัดเจน

ในวงการสื่อออนไลน์ บริษัท ท้อปสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือของสนุก ออนไลน์ เป็นบิ๊กรายหนึ่ง ซึ่งน่าจะสะท้อนความเป็นไปของธุรกิจนี้ได้ดี ด้วยประการนี้ เราจึงเชื้อเชิญ กษมาช นีรปัทมะ กรรมการผู้จัดการบริษัทมาสนทนา

ประเด็นแรกเพื่อการปูพื้นข้อมูลการโฆษณาออนไลน์ที่ กษมาช อธิบายให้ฟังก็คือ สื่อ ออนไลน์อยู่ในช่วงแนะนำตัว และตลาดใน ประเทศไทยยังเป็นตลาดเกิดใหม่ เทียบกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำ ซึ่งมียอดค่าใช้จ่ายสื่อออน ไลน์อยู่ 10% ของมูลค่าการใช้สื่อทั้งหมด ส่วนบางประเทศในยุโรป มีส่วนแบ่งงบประมาณให้สื่อออนไลน์สูงกว่า 15% แต่ในประเทศไทย ข้อมูลปี 2550 ยังอยู่เพียง 1% หรือ 900 ล้านบาท

ปีนี้ท้อปสเปซคาดว่าโฆษณาออนไลน์และดิจิทัลมีเดียยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 2% หรือ 1,500-1,600 ล้านบาทของอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวม ซึ่งคาดว่าจะลดลงประมาณ 10-15% จากปีก่อน แต่โฆษณาออนไลน์มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ลูกค้าต้องพิจารณาการใช้สื่อ มากขึ้นครับ เนื่องจากทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ ณ สถานการณ์นี้ ต้องรัดกุมเรื่องค่าใช้จ่ายโดยเน้นการวัดผล

แม้ผู้ใช้สื่อจะทราบกันดีว่า สื่ออินเทอร์เน็ต เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนตรงตัว แต่คงเทียบกับสื่ออื่นได้ยาก แต่เราก็ยังอยากให้คนในวงการลองเทียบคู่ดู ซึ่งกษมาช ก็ย้ำให้เข้าใจว่า สื่อออนไลน์และสื่อแบบเดิม (ทีวีหรือสิ่งพิมพ์) จะเอามาเปรียบเียบราคากันตรง ๆ ไม่ได้ เพราะมีรูปแบบการเข้าถึงและการนำเสนอที่แตกต่างกัน

แต่อยากรู้ ก็ลองคิดให้ ด้วยจำนวนต้นทุนที่เท่ากัน เช่น 200,000 บาท จะพบว่าการเลือกซื้อสื่อโทรทัศน์แบบฟรีทีวี จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวนคนมากกว่า เพราะมีคนดูทั่วประเทศ แต่ประเมินคนดูเป้าหมายได้ยาก และใช้ประโยชน์เฉพาะสื่อสารเพื่อการรับรู้ในผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์เท่านั้น ส่วนสื่อออนไลน์ งบก้อนนี้สามารถเข้าถึง กลุ่มเป้าหมายชัดเจนว่าจะเลือกกลุ่มไหน และไม่ใช่เพียงแค่สร้างการรับรู้ในแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ แต่สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์ต่าง ๆ สร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างกลุ่ม เป้าหมายกับผลิตภัณฑ์ได้

สรุปว่างบประมาณที่เท่ากัน สื่อออน ไลน์ตอบโจทย์ทางการตลาดหรือการขายได้ครบถ้วนกว่า

เราถามว่า เวลาผู้ประกอบการจะเลือกโฆษณา จะเลือกแบบออนไลน์หรือสื่ออื่น จะขึ้นกับเงื่อนไข คำตอบก็คือ มีตั้งแต่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ กับตราสินค้า หรือผลิตภัณฑ์จนไปถึงรูปแบบเดิมของการประเมินความคุ้มค่าของสื่อเดิมคือ ซึ่งการตลาดออนไลน์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการวัดผลตั้งแต่จำนวนคนที่สื่อเข้าถึง คนรับข่าวสาร คนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม คนที่เข้าร่วมกิจกรรมต่อเนื่อง จนไปถึงการซื้อ หรือซื้อซ้ำเลยก็มี ขึ้นอยู่กับว่าใครสามารถมองเห็นภาพของห่วงโซ่กิจกรรมการตลาดที่ตนเองทำได้ดีกว่ากัน

น่าสงสัยว่า สื่อออนไลน์ จะให้บริการโฆษณาได้กับสินค้าทุกชนิดหรือไม่ และอะไรที่ไม่เหมาะในการเลือกสื่อนี้ คำตอบของ กษมาช คือ นึกไม่ออก และคิดว่า ไม่มีสินค้าใดเลยที่สื่อออน ไลน์ ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีใช้แต่ละรูปแบบในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า เพราะสินค้าราคาแพงมาก ๆ เช่น บ้าน รถ ก็สามารถใช้ได้ เพื่อเป็นจุดพบปะของผู้ซื้อและผู้ขาย

ในโลกออนไลน์นั้น เชื่อกันว่าในตลาดเมืองไทย ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะเป็นคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น จำนวนผู้สูงอายุมี้อยกว่า จึงมีคำถามว่าการลงโฆษณาสินค้าหมวดนี้จะได้ผลตอบแทนต่ำหรือไม่ ผู้บริหารของท็อปสเปซ ยอมรับว่า ในเมืองไทยตอนนี้คงใช่ แต่ในประเทศที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสูงกว่าเราหลายเท่าตัว กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มสำคัญที่มีการเติบโตสูงเช่นเดียวกัน สินค้าในกลุ่มท่องเที่ยว กิจกรรมสันทนาการ เนื่องจากกลุ่มนี้มีเวลาว่าง และมีกำลังซื้อสูง และหากจะช่วยให้ตลาดในไทยเติบโต ก็ต้องขอรัฐบาลช่วยกระตุ้นให้ลูก ๆ หลาน ๆ ช่วยสอนให้ท่านเข้าเน็ตเป็น ใช้งานเป็น ใครจะไปรู้ อาจจะเป็นกลุ่มใหญ่เลยก็ได้นะครับ

ในโลกธุรกิจ ทราบกันดีว่า สินค้าและบริการใดได้รับความนิยมก็จะมีหน้าใหม่ดาหน้าเข้าหาตลาดนั้นมากมาย การหารายได้ออนไลน์ที่คนกลุ่มหนึ่งนิยม คือเปิดเว็บรอรับโฆษณาสำหรับวันนี้ ยังทำได้หรือไม่ กษมาช บอกว่า ทำได้แน่ ๆ เพราะการเข้าถึง และการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา

แต่ก็ต้องพิจารณาดี ๆ ว่าการทำเว็บไซต์ต้องมีกลยุทธ์ จุดขาย ที่แตกต่าง เพราะโมเดลของการทำธุรกิจการขายพื้นที่โฆษณาทุกรูปแบบขึ้นอยู่กับการมีปริมาณการเข้าเยี่ยมชมที่สูง และปริมาณบริโภคข้อมูลของผู้เยี่ยมชม

ตลาดใหม่ที่กว้างใหญ่ มีลูกค้า ผู้ใช้ในประเทศเป็นประจำนับสิบล้าน และมีผู้บริโภคกลุ่มเริ่มต้นเติมเพิ่มแบบก้าวกระโดดทุกวัน คือโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการคนไหนก็อยากเข้ามา

สื่อโฆษณาออนไลน์จึงมีโอกาสเป็นซู เปอร์สตาร์ค่าตัวแพงที่มีอนาคตไกล. วีระพันธ์ โตมีบุญ

Veeraphant@Gmail.com