จับจ่ายใช้สอย โอทอป ระดับหัวกะทิ

จับจ่ายใช้สอย โอทอป ระดับหัวกะทิ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ชื่นชอบ โอทอป ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านไทย สามารถซื้อหาสินค้าโอทอประดับ 3-5 ดาว กว่า 3,200 ร้านค้าจาก 4 ภาค ได้ครบครันในคราวเดียว ภายในงาน โอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้ 2009 ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย รวบรวมจัดภายในสนามศุภชลาศัย (สนามกีฬาแห่งชาติ) รวมทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ 8 แห่ง ใจกลาง กรุงเทพมหานคร โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ณ สนามศุภชลาศัย

 

ก่อนถึงช่วงเวลาเปิดงานอย่างเป็นทางการ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย พร้อมนายไพรัตน์ สกลพันธุ ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับผู้บริหารศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ตีฆ้องและปล่อยนกพิราบขาว เป็นสัญญาณเปิดงานเป็นคำรบแรก ณ ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม จากนั้นขึ้นรถพาเหรดตกแต่งเป็นรถหนุมาน มุ่งหน้าทำพิธีเปิดงานในศูนย์การค้าที่ร่วมจำหน่ายสินค้าโอทอป ตลอดทางผู้อยู่สอง ฝั่งถนนได้ชมขบวนพาเหรดวัฒนธรรม 76 จังหวัด ยิ่งใหญ่และสวยงามตระการตา ในรูปขบวนพาเหรดกลุ่ม 18 จังหวัด แสดงเอกลักษณ์ด้านศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาแต่ละจังหวัด

 

เมื่อขบวนพาเหรดเข้าสู่จุดหมายสนามศุภชลาศัย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย กล่าวรายงานถึงการจัดงานในครั้งนี้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบชุมชนหรือท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลทำโครงการต้นกล้าอาชีพและโครงการอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้ มีอาชีพหากมีการทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อีกทั้งจะสร้างความภาคภูมิใจและเป็นการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ของไทยไปสต่างชาติได้ ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เป็นพื้นฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย

 

โดยเฉพาะการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่จะต้องสนับสนุนให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ตามศักยภาพทางการตลาดในระดับต่าง ๆ โดยจัดระบบการบริหารโครงการแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างเทคโน โลยี และการจัดการควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านการตลาด

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีตีฆ้องเป็นสัญญาณเปิดงาน โอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้ 2009 และนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรีเยี่ยมชมการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอป พร้อมทั้งกล่าวทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มาร่วมออกร้านสินค้าโอทอป

 

นางลักขณา นะวิโรจน์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า สินค้าโอทอปที่นำมาจำหน่ายภายในงาน แบ่งตามไลฟ์สไตล์และกลุ่มลูกค้าของแต่ละห้างสรรพสินค้า อาทิ ดิ เอ็มโพ เรียม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นสินค้าในกลุ่มของสปา งานหัตถกรรมไม้แกะ สลัก เครื่องเงิน ดอกไม้ประดิษฐ์ ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นเป็นลูกค้าสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ จึงเป็นสินค้าแฟชั่น ประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ส่วนลูกค้าสยามพารากอนจำนวนมากเป็นนักท่องเที่ยว ต้องเป็นอาหาร วัฒนธรรม 4 ภาค รวมถึงเครื่องประดับมุก เครื่องเงิน เครื่องปั้นดินเผา เซรามิก และเครื่องจักสาน เป็นต้น

 

อยากให้คนไทยซื้อสินค้าโอทอปมาก ๆ เพราะสินค้าแต่ละชนิดแต่ละประเภทมีคุณภาพ และการจับจ่ายซื้อสินค้าโอทอปยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชนบท เป็นการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศชาติด้วย นางลักขณา กล่าว. ส่วนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปคุณภาพ จาก 4 ภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,500 ร้านค้า ในงาน โอทอป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้ 2009 ณ สนามศุภชลาศัย คลาคล่ำด้วยสินค้าหัตถกรรม ศิลปะประดิษฐ์และของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้และของประดับตกแต่ง สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร

 

ศูนย์การค้าชั้นนำ 8 แห่ง 700 ร้านค้า ได้แก่ ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์-อาหารแห้งและเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร, ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์-เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย หัตถกรรม เครื่องจักสาน, ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์-แฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับ, ศูนย์การค้าสยามพารากอน-อาหารแห้งและเครื่องดื่ม หัตถกรรม เครื่องปั้นดินเผา เซรามิก หัตถกรรม เครื่องจักสาน ดอกไม้ประดิษฐ์ จัดแสดงเครื่องทอง ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับมุก เครื่องเงิน เครื่องประดับทำจากนิล เปลือกไข่วิจิตรศิลป์ ผลิตภัณฑ์และเครื่องประดับจากอัญมณี ผลิตภัณฑ์และเครื่องประดับพลอยและหินสี

 

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์-ของที่ระลึก ของแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์สปา เทียนหอม อาหารแห้ง และเครื่องดื่ม หัตถกรรม จักสาน และศิลปะประดิษฐ์ ของจิ๋ว หัวโขน เครื่องแก้ว ถ้วยชามเบญจรงค์ ผลิตภัณฑ์จากผ้าไทย, ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า-แฟชั่นและของแต่งบ้าน และศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม-งานหัตถกรรมไม้แกะสลัก เครื่องเงิน ดอกไม้ประดิษฐ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook