สาวไฮโซรอดแก๊งโกงภาษี ไม่เสียทรัพย์แม้สักสลึง

สาวไฮโซรอดแก๊งโกงภาษี ไม่เสียทรัพย์แม้สักสลึง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมเหล่ามิจฉาชีพ หลอกลวงทรัพย์จากผู้เสียภาษี มีผู้ตกเป็นเหยื่อสูญเสียทรัพย์แล้วหลายราย หากมีส่วนหนึ่งที่เจอเล่ห์เหลี่ยมของผู้เป็นภัยสังคมกลุ่มนี้ ทว่าโชคดีไม่พลาดพลั้งถึงขั้นโอนเงินเข้าบัญชีวายร้ายไป สุทัศนีย์ คุณผลิน กรรม การผู้จัดการ บริษัท อัพเน็กซ์ จำกัด ไฮโซสาวสวย คือหนึ่งในผู้โชคดีในกลุ่มนั้น คุณสุทัศนีย์เล่าว่า ก่อน เรื่องราวของเหล่ามิจฉาชีพถูกเปิดโปง วันหนึ่งช่วงสาย ๆ โทรศัพท์พูดกับเพื่อน (ใช้บลูทูธ) ขณะกำลังขับรถ มีสายไม่โชว์หมายเลขเรียกซ้อนเข้ามา จึงสลับสายไปคุย ได้ยินเสียงจากเครื่องรับอัตโนมัติ กรมสรรพากร สวัสดีค่ะ แจ้งว่ามีเงินคืนภาษี หากต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่กด 9 จึงทำตาม มีผู้หญิงพูด สวัสดีค่ะ สุนันทารับสาย จึงแจ้งว่าได้รับโทรศัพท์แจ้งคืนภาษีจึงติดต่อเข้ามา

ฝ่ายนั้นบอกคุณสุทัศนีย์ว่า ขอตรวจสอบข้อมูลโดยถามถึงชื่อที่อยู่ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งบอกไปครบทุกอย่าง เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่ามีเงินคืนภาษีจำนวน 12,086.48 บาท ให้นำบัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร มารับเงินที่ชั้น 7 ตึกกลาง กรมสรรพากร ภายในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันสุดท้าย ตอนนั้นก็นึกเอะใจเหมือนกันแต่ด้วยความที่ทุกอย่างดูเป็นระบบเป็นขั้นตอนดูมืออาชีพจึงยังคุยต่อ พอบอกไปว่าไม่สะดวก เขาเสนอ้าที่บัญชีโอนเงินให้เป็นบริการออนไลน์ แล้วโอนสายไปให้ผู้ชายซึ่งพูดชื่อเราถูกต้อง ซึ่งปกติถ้าเป็นระบบธนาคาร ต้องถามรายละเอียดเราย้ำอีก แต่นี่ไม่เลย และถามเลขที่บัญชีธนาคารที่จะโอนเงินเข้า ตอนนั้นเริ่มเอะใจอีกครั้งดูบริการดีเกินไป ใจหนึ่งคิดว่าหรือเป็นเพราะเปลี่ยนรัฐบาลใหม่จึงปรับปรุงระบบการบริการ จึงอยากลองว่าหากเป็นพวกมิจฉาชีพจะทำอย่างไรต่อไป เลยเลือกบอกเลขที่บัญชีธนาคารที่มีบริการแจ้งเอสเอ็มเอสแสดงสถานะการหมุนเวียนของเงิน เพื่อจะได้รู้ว่ามีการโอนเงินเข้ามาจริงหรือไม่ ทางนั้นแจ้งว่าอีก 20 นาทีเงินจะโอนเข้าเรียบร้อยให้รอตรวจสอบ คุณสุทัศนีย์เล่าว่า จากนั้นโทรศัพท์ถามเพื่อน ๆ บางคนทักท้วง แต่บางคนเ ชื่อ คิดเช่นกันว่าอาจเป็นบริการใหม่ จึงโทรศัพท์ไปที่กรมสรรพากร แต่สายไม่ว่างตลอด พอสายว่างก็ไม่มีผู้รับ พอครบ 20 นาทีมีคนโทรฯเข้าเครื่องทันที แจ้งโอนเงินแล้วอยู่ใกล้ตู้เอทีเอ็มไหม ให้เช็กเงินได้เลย แต่ตอนนั้นยังขับรถจึงบอกไปว่าให้ทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ แล้วจะโทรฯบอกเองเมื่อได้รับเงิน ทางนั้นก็ให้ซึ่งตัวเลขแรก ๆ เป็นเบอร์ต้นของกรมสรรพากรจริง แต่โทรฯไปไม่มีคนรับสาย เมื่อถึงสำนักงานจึงตรวจสอบผ่าน อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง เพราะมักทำธุรกรรมด้วยวิธีนี้ แต่ไม่มีเงินโอนเข้า เริ่มวิตกจึงพยายามติดต่อกรมสรรพากร ใช้เวล เมื่อคุณสุทัศนีย์เล่ารายละเอียด เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีบริการนี้ และแนะนำให้ปิดบัญชี อายัดบัญชี แต่ด้วยความที่บัญชีนี้เป็นบัญชีที่เปิดไว้ตัดบัตรเครดิตค่าน้ำค่าไฟ จึง ไม่สามารถปิดได้ ทำได้เพียงโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีอื่น และโทรฯปรึกษาธนาคารซึ่งแนะนำแบบเดียวกันและควรอายัดบัญชีอย่างยิ่ง เพราะมิจฉาชีพมีข้อมูลทุกอย่างของเรา รวมถึงให้แจ้งความ หน้าเว็บไซต์กรมสรรพากรแจ้งเตือนตลอด ระวังคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร ยังดีที่เราระวังตัว แต่ด้วยความอยากลองจึงทำตามที่มิจฉาชีพบอก ยังดีที่ไม่ เสียเงิน การที่มิจฉาชีพทำเป็นขบวนการและดูน่าเชื่อถือได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งคงเพราะผลเศรษฐกิจ ทั้ง ๆ ที่ระวังตัวและอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ภัยยังผ่านมาตามเทคโนโลยีอีก. เมื่อบุคคลยื่นแบบคำขอคืนเงินภาษี และกรมสรรพากรตรวจสอบหลักฐานเรียบร้อย หากได้รับเงินคืนเจ้าหน้าที่จะแจ้งเอสเอ็มเอสว่าได้ส่งเช็คคืนเงินภาษีให้แล้วพร้อมระบุวันที่ โดยกรมสรรพากรจะคืนเงินภาษีผ่านทางเช็คธนาคารกรุงไทย และระบุชื่อ-สกุลของผู้ขอคืนและส่งไปให้ทางไปรษณีย์ตามภูมิลำเนาที่ผู้ขอแจ้งคืนไว้เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook