อายิโนะโมะโต๊ะ ชูคาลพิส แลคโตะ ชิงตลาดเครื่องดื่ม

อายิโนะโมะโต๊ะ ชูคาลพิส แลคโตะ ชิงตลาดเครื่องดื่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อายิโนะโมะโต๊ะ เปิดตัวเครื่องดื่มแนวใหม่ คาลพิส แลคโตะ ชูจุดเด่นให้ความสดชื่น หวังเป็นสินค้าเรือธงในกลุ่มเครื่องดื่ม วางเป้าปีแรกกินแชร์ 3-5% ในตลาดเครื่องดื่ม 14,000 ล้านบาท

นายพิเชียร คูสมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางของผู้บริโภคให้ความสนใจในสุขภาพ ประกอบกับในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหน้าร้อนทางบริษัทจึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแลคติค เอซิด คาลพิส แลคโตะ (Calpis Lacto) เพื่อใช้เป็นสินค้าเรือธงหลักของกลุ่มเครื่องดื่ม ซึ่งเป้าหมายภายในระยะ 3 ปีข้างหน้า สินค้าใหม่นี้จะมีสัดส่วนรายได้ 25% ของกลุ่มเครื่องดื่ม ส่วนในปีแรกคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ของกลุ่มเครื่องดื่ม

ปัจจุบันอะยิโนะโมะโต๊ะมีสินค้าหลักอยู่ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเครื่องปรุงรส สัดส่วนเกือบ 50% กลุ่มเครื่องดื่มมีสัดส่วนประมาณ 25% และกลุ่มบะหมี่และอื่นๆ อีก 25% ซึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 18,000 ล้านบาท เติบโตเพียงเลขตัวเดียว ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโตด้วยเลขสองหลัก โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ประมาณ 5% ตามสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

การออกสินค้าใหม่ต้องมีความพร้อม ซึ่งเรามีการพัฒนาสินค้ามากว่า 2 ปี ปรับปรุงรสชาติให้เหมาะกับคนไทย ประกอบกับความพร้อมเรื่องเทคโนโลยีการผลิตของคาลพิส ประเทศญี่ปุ่นที่ถือเป็นบริษัทใหญ่ 1 ใน 10 ด้านเครื่องดื่มแลคติค เอซิด ซึ่งในส่วนแบ่งการตลาดในเครื่องดื่มนี้มากกว่า 70% ในญี่ปุ่น ส่วนสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้บริษัทยังออกสินค้าใหม่มาทำตลาด เนื่องจากเชื่อว่าในวิกฤติมีโอกาส และหากเป็นช่วงในภาวะเศรษฐกิจดีทุกคนจะออกสินค้าใหม่มามาก ทำให้การแข่งขันสูง และสินค้าสุขภาพก็เป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภค โดยเห็นจากตลาดเครื่องดื่มให้ความสดชื่นมีการเติบโตถึงปีละ 10% นายพิเชียร กล่าวและว่า

บริษัทได้มีการลงทุนเพิ่มอีก 130 ล้านบาท เพื่อขยายฐานการผลิตและวิจัยพัฒนาสินค้าดังกล่าว ในส่วนกำลังการผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ส่วนการทำตลาดผลิตภัณฑ์คาลพิส แลคโตะนั้นบริษัทใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท จากงบประมาณการตลาดรวม 500 ล้านบาท โดยเน้นการสื่อสารผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ และกิจกรรมการตลาด ซึ่งปีแรกตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาด 3-5% จากตลาดรวมเครื่องดื่มให้ความสดชื่น 14,000 ล้านบาท ได้แก่ กลุ่มชาพร้อมดื่ม กลุ่มน้ำผลไม้ และกลุ่มสปอร์ตดริงก์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook