ก.ล.ต.ปลุกสภาพคล่องกองทุนอสังหาฯ
นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวว่า สำนักงาน ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง)การแก้ไขหลักเกณฑ์กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขาย โดยมีแนวคิดที่จะเพิ่มขนาดขั้นต่ำของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จาก 500 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท รวมทั้งแก้ไขหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 17 เมษายน 2552
เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีขนาดกองไม่ใหญ่นักมักประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเติบโตและความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนรวมประเภทนี้ในอนาคต
สำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ เช่น 1.การอนุญาตให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
2. กำหนดให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ภายใน 3 เดือนนับแต่วันจดทะเบียน
กองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม จากเดิมที่ให้ลงทุนภายในรอบระยะเวลาบัญชีปีแรก และ3. กำหนดให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ต้องลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมที่จะจัดหาผลประโยชน์แล้วเท่านั้น
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2552 ตลท.ได้แยกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ออกจากหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจัดตั้งเป็นหมวดธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund Sector)พร้อมเผยแพร่ดัชนีและค่าสถิติต่าง ๆเพื่อสะท้อนภาพรวมหมวดธุรกิจดังกล่าว และให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมด 21 กองทุน มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 48,690.66 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 25 มี.ค.52 ) คิดเป็น 12.19% ของมาร์เก็ตแคปกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และ 1.40% ของมาร์เก็ตแคปทั้งตลาด