ปู่ชัยแย้มมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย

ปู่ชัยแย้มมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ช่วงหลังสงกรานต?! เป็นผู้มีบุญบารมี เสื้อแดงไป ก.คลัง ฮึ่มปิดล้อมกสท กลุ่มคนเสื้อแดงนับร้อย ดาวกระจายไปกระทรวงการคลัง เปิดปราศรัยชั่วโมงเศษก็กลับทำเนียบฯ ทำได้เพียงสร้างปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ จตุพร ขู่หาก 3 วันไม่ต่อสัญญาณดีสเตชั่น กับเคเบิ้ลทีวี เจอบอยคอตชุมนุมปิดล้อม กสท.แน่ ระบุเป้าหมาย พล.อ.เปรม ต้องออก เชื่อ 8 เม.ย. จะสิ้นสุดอำมาตย์ สุเทพ กราบขอโทษ ป๋า ที่ทำให้เดือดร้อน วอนม็อบให้เคารพกฎหมาย อย่าคุกคาม ครม. โต้ข่าวจับมือทหารตัดสัญญาณดีสเตชั่น ทางด้าน ปู่ชัย เผยหลังสงกรานต์จะมีผู้ที่มีบุญบารมีเป็นคนกลางที่ทุกฝ่ายให้ความเคารพมาไกล่เกลี่ยปัญหา อยากได้ของขวัญวันเกิด วอนทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองเป็นสุข แนะ ป๋าเปรม วางอุเบกขา ด้านศิษย์เก่าสวนกุหลาบเข้าให้กำลังใจ ป๋า ทูตสหรัฐก็มาพบเช่นกัน พะจุณณ์ เผย 10 เม.ย. อาจเปิดบ้านสี่เสาฯ ให้รดน้ำสงกรานต์ อำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี พ้อ เดี๋ยวนี้ใส่เสื้อสีอะไรยังต้องระวัง ชี้ปัญหาความขัดแย้งทาง การเมืองเกิดจากคอร์รัปชั่นขอข้าราชการอย่าพายเรือให้โจรนั่ง

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. บรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 ตั้งแต่เช้าบรรดาแกนนำต่างสลับขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีที่เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดกรณีการถ่ายทอดสัญญาณสถานีดีสเตชั่น ขัดข้องกว่า 3 ชม. พร้อมกับประกาศว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ทางรัฐบาลต้องรับผิดชอบ นอกจากนั้นยังได้ประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปยังกระทรวงการคลังในเวลา 13.00 น. อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายกำลังพักผ่อนตามร่มไม้ และบรรยากาศการชุมนุมไม่ได้มีความตึงเครียดแต่อย่างใด ส่วนการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็มีความผ่อนคลายมากขึ้นด้วย ในขณะที่ข้าราชการทำเนียบฯ ต่างทยอยเดินทางเข้ามาทำงานตามปกติโดยเข้า-ออกทางประตู 8 นอกจากนั้นธนาคารออมสินและที่ทำการเปิดไปรษณีย์ก็ได้เปิดให้บริการตามปกติเช่นเดียวกัน ณัฐวุฒิ ประกาศดาวกระจาย

ในเวลา 10.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสย เกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงว่า การใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปยังกระทรวงการคลังนั้น เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ และไม่เชื่อมั่นความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ รวมทั้งเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้กำลังอายุสั้น และถือเป็นช่วงสุดท้ายของรัฐบาล ตนยืนยันว่า การดาวกระจายในช่วงนี้ จะไม่บุกเข้าไปในสถานที่ราชการและไม่ปิดกั้นข้าราชการ เข้า-ออก รวมถึงจะไม่ค้างคืน แต่จะปราศรัยให้ประชาชน และข้าราชการได้ฟัง ส่วนการดาว กระจายในวันอื่น ๆ จะประชุมกันอีกครั้งว่าจะไปสถานที่ใด

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นถูกตัดสัญญาณเป็นบางช่วงว่า รัฐบาลอย่ามากล่าวหาว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดง ในเมื่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กล้าทำ ก็ขอให้กล้ารับ อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ตั้งทีมเทคนิคในการกู้สัญญาณไว้แล้ว ส่วนการ วิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี มั่นใจว่ารัฐบาลและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไม่สามารถตัดสัญญาณได้อย่างแน่นอน แม้จะตัดไม่ให้มีภาพ แต่ยังถ่ายทอดเสียงได้ตามปกติ เสื้อแดงบางกะปิรับ สุเทพ

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า (กรุงเทพฯ) ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงย่านบางกะปิประมาณ 30 คน มาชุมนุมที่หน้าศูนย์ฯ พร้อมตะโกนและใช้ตีนตบ ชูป้ายที่มีข้อความโจมตีและขับไล่รัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก ประมาณ 50 นาย มารักษาความสงบตั้งแถว และใช้โล่เพื่อเป็นแนวกั้นสกัดไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านเข้าไปยังบริเวณงานได้

นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มม็อบเสื้อแดงยังไม่ยอมเปิดทางให้รถเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล ตามคำสั่งคุ้มครองของศาลแพ่ง ว่า ตนขอเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมโปรดเคารพกฎหมาย และปฏิบัติตามคำสั่งของศาล บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎกติกา ซึ่งฝ่ายรัฐบาลได้ใช้ความระมัดระวัง และอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่ สุดอยู่แล้ว โดยรัฐบาลไม่ได้ไปข่มเหงรังแก ยั่วยุ หรือท้าทายใด ๆ แต่การชุมนุมที่มีการปิดล้อมและบังคับข้าราชการและรัฐมนตรีที่จะเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลให้ต้องเดินเท้าเข้าไป และให้มีการตรวจค้นนั้นถือเป็นการคุกคามและล่วงละเมิดสิทธิของบุคคลไม่ใช่การชุมนุมที่สงบ ตามปกติ อีกทั้งทำเนียบรัฐบาลมีถนนรอบ 4 ด้าน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมก็ชุมนุมได้ 3 ด้านแล้ว จึงต้องขอสัก 1 เส้นทาง เพื่อให้คนเข้า-ออกได้โดยไม่รู้สึกว่าถูกกดดันหรือถูกบีบคั้น ทั้งนี้ ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของศาลแพ่ง เจ้าหน้าที่ต้องไปพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย รัฐบาลจะไม่ไปกดดันใคร แต่เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องดูแลให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนสัปดาห์หน้าจะสามารถประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในทำเนียบรัฐบาลได้หรือไม่นั้นตนก็แก้สถานการณ์ไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ยันไม่ได้ตัดสัญญาณดีสเตชั่น

เมื่อถามถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์ ดี สเตชั่นถูกตัดสัญญาณออกอากาศเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าถูกรัฐบาลสั่งให้ดำเนินการ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ทั้งนี้ตนยังได้มอบให้กระทรวงไอซีที ศึกษาข้อกฎหมายดูก่อน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเคารพและปฏิบัติตาม กฎหมายทุกอย่าง ไม่ทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย ส่วนสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นจะถ่ายทอดได้หรือไม่นั้น อย่ามาโทษรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่ได้ทำ และพวกตนไม่มีขีดความสามารถที่จะทำอะไรสิ่งเหล่านั้นได้ สำหรับการตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หรือไม่นั้น แล้วแต่กระทรวง ไอซีทีจะไปดูให้ละเอียดรอบคอบ และตนไม่ไปกำหนดเวลา เพราะต้องระมัดระวังว่าไม่ไปบีบคั้นใคร เนื่องจากการบีบคั้นจะทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ อย่างไรก็ตาม การที่ยังคงมีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างต่อเนื่องนั้น ตนยังเชื่อว่าประชาชนจะใช้วิจารณญาณของตัว เองได้ ตนจึงไม่ค่อยกังวลเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ต้องดูแลทำตามกฎหมาย ถ้าการโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์เป็นการปลุกระดมเพื่อให้คนทำผิดกฎหมาย เราก็ต้องดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวที่ว่ารัฐบาลร่วมมือกับกองทัพข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ข่าวอย่างนี้ไม่เป็นมงคลสำหรับประเทศ ต้องไม่เอาข่าวอย่างนี้มาถามอีก ตนไม่ได้ทำอย่างนั้น เมื่อถามอีกว่าหลังจากได้เปิดทางประกาศว่า พร้อมจะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการตอบรับมาบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามต่อถึงกรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ระบุว่าจะมีผู้ใหญ่ที่มีบารมีเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหลังเทศกาลสงกรานต์ นายสุเทพ ได้แต่หัวเราะแล้วกล่าวว่า ให้ไปถามคนที่ให้สัมภาษณ์ เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้เริ่มมีบางฝ่ายพูดถึงข้อเสนอ ในการตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาอีก นายสุเทพ ไม่ตอบคำถามนี้แต่อย่างใด สุเทพ กราบขอโทษ ป๋า

ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งที่ให้ผู้ชุมนุมเปิดทางเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล ว่า เรื่องนี้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและ ผบ.ตร.เป็นผู้ ดำเนินการ ซึ่งตามข้อกฎหมายแล้วกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เป็นการกดดันสิทธิเสรีภาพของเจ้าหน้าที่ ปลัด สปน.ไปยื่นฟ้องให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเปิดทางเพียงเส้นทางเดียว เพื่อให้รัฐมนตรีและข้าราชการเข้าไปทำงานได้ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับฝ่าฝืนและระบุว่าจะไปอุทธรณ์ ทั้งที่คำสั่งของศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว หมายความว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องทำตามก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่เมื่อไม่ทำตามตำรวจและปลัด สปน. ต้องไปบอกให้ศาลทราบเพื่อให้พิจารณาต่อไปซึ่งอาจให้เจ้าหน้าที่ กรมบังคับคดีดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่า รัฐบาลกังวลหรือไม่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเคลื่อนไหวไปปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในวันที่ 8 เม.ย. นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลต้องดูเหตุการณ์ต่อไป และต้องกราบขออภัยประธานองคมนตรีที่ต้องพลอยได้รับความเดือดร้อนและกระทบกระเทือน ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะดูแลสถานการณ์อย่างดีที่สุด ทั้งนี้ได้ฝากให้ ผบช.น.กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลสถานการณ์เป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงเคยไปพังบ้านพักของ พล.อ.เปรม แล้วครั้งหนึ่ง ส่วนจะขอกำลังทหารเข้ามาช่วยดูแลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ ผบช.น.ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมดูแล สถานการณ์ จะเป็นคนตัดสินใจเอง ปธ.วุฒิ เชื่อจะเจรจากันได้

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศ ระดมพลในวันที่ 8 เม.ย.ว่า ตนเป็นห่วงมาก อย่าให้ถึงขนาดมีการแตกหักกันเลย ตนคิดว่าน่าจะเจรจากันได้ เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ และระบบเศรษฐกิจของเราด้วย ส่วนที่นาย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าหลังสงกรานต์จะมีบุคคลที่มาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งได้ นั้นตนไม่ทราบรายละเอียด แต่หากมีคน กลางที่สามารถไกล่เกลี่ยได้จริง ๆ ก็น่าจะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง เพราะทุกคน อยากให้เหตุการณ์ยุติลงด้วยดีโดยเร็ว ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าขณะนี้มีคนกลางที่จะคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มเสื้อแดง กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้หรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนคิดว่ายังมี เพราะบ้านเมืองเรามีคนที่เป็นกลางอีกมากที่ทุกฝ่ายให้ความเคารพนับถือ ต่อข้อถามว่ามองว่าอาจมีการแตกหักก่อนที่จะเจรจากัน ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า คงไม่ต้องรอให้ถึงแตกหัก ตนเชื่อว่าอาจจะมีคนกลางมาเจรจาได้ ไม่ต้องรอถึงหลังสงกรานต์ อย่างไรก็ตามตนขอฝากไปยังผู้ชุมนุมว่าสามารถใช้สิทธิชุมนุมด้วยความสงบตามรัฐธรรมนูญได้ แต่อย่าใช้ ความรุนแรงและทำผิดกฎหมาย ชัย ขอสามัคคีเป็นของขวัญ

ต่อมาเวลา 09.15 น. นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด 81 ปี ของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จากนั้นนายชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่อยากได้เป็นของขวัญวันเกิดว่า อยากให้ทุก ฝ่ายทบทวนว่า จะทำอย่างไรให้บ้านเมืองอยู่ร่มเย็นเป็นสุข มีความสมัครสมานสามัคคี และปีใหม่ไทยที่จะถึงนี้ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บรมวงศานุวงศ์ และบรมมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ปกปักรักษาคนในประเทศไทยทุกคน ให้มีพลานามัยที่สมบูรณ์ มีความรัก ความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แนะ ป๋าเปรม วางอุเบกขา

เมื่อถามว่าเป็นห่วงถึงการพาดพิง สถาบันหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ตนเป็นห่วงและไม่สบายใจ เห็นภาวการณ์บ้านเมืองที่เกิดความไม่เข้าใจ แต่ละฝ่ายเกิดการห้ำหั่นกัน อยากให้ทุกฝ่ายคิด และมองความเป็นไปได้ เพื่อทำให้สังคมอยู่รอด ส่วนที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ประธานองคมนตรี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ อายุมากแล้วมีจิตใจหนักแน่น และจะหนักแน่นกว่าตนด้วยซ้ำ คงไม่ถือสาหาความ ประธานองคมนตรี ก็เหมือนพระองค์หนึ่ง ที่เขาตั้งสมมุติฐานไว้ มีทั้งคนรักและไม่รัก ชอบและไม่ชอบเป็นเรื่องธะฉะนั้นประธานองคมนตรีต้องวางอุเบกขาได้แล้ว และรัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุน แรง และต้องรู้จักถอย พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายเข้าใจว่าสิ่งใดผิด สิ่งใด ถูก และสิ่งใดเป็นความจริงและไม่จริง ต้องพยายามชี้แจงให้ประชาชนในชาติเข้าใจ ซึ่งตนคิดว่าคนไทยเราเข้าใจกันง่าย จะมีคนมีบารมีมาไกล่เกลี่ย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุพร้อมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายชัย กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รักประเทศเหมือนกันและเป็นคนไทย ต้องช่วยให้ประเทศเดินไปได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้คิดทำลายประเทศไทย อีกทั้งยังรักในหลวงเหมือนคนไทยทุกคน ต่อข้อถามว่า ข้อเสนอของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เสนอให้ยุบสภา และแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลค่อนข้างจะยอมรับได้ยาก นายชัย กล่าวว่า ต้องพยายามปรับความเข้าใจเข้าหากัน แล้วปัญหาต่าง ๆ ก็จะหมดไป เมื่อถามต่อว่า จะมีโอกาสในการหารือกันหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า จากจิตสำนึกของตนคิดว่า หลังสงกรานต์อาจจะมีผู้ที่มีบุญบารมีเป็นคนกลางที่ทุกฝ่ายให้ความเคารพมาไกล่เกลี่ยปัญหา ศิษย์สวนกุหลาบฯให้กำลังใจป๋า

ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้มีศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบฯ นำโดย นายวีระ สมความ คิด ประธานเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีต ส.ส.ร. และนายวรจักร รังษีพัฒน์ เดินทางมามอบแจกันดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นอดีตนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเช่นกัน โดยมี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีเป็นผู้แทนรับมอบแจกันดอกไม้ นายวีระ ให้สัมภาษณ์ว่า มาในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และเมื่อ พล.อ.เปรม ถูก พ.ต.ท. ทักษิณ โจมตี จึงต้องการมาให้กำลังใจ พล.อ. เปรมให้มีความเข้มแข็งต่อสู้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ประสานให้กลุ่มดังกล่าว ปรากฏว่ารถจากสถานทูตฯสหรัฐอเมริกาวิ่งเข้าไปในบ้านสี่เสาเทเวศร์ก่อน จากนั้น พล.ร.ท.พะจุณณ์ ได้เดิน ออกมารับดอกไม้แทน พล.อ.เปรม พร้อมแจ้งว่า พล.อ.เปรม ได้รอคณะศิษย์เก่าเดินทางเข้าพบภายในบ้านพัก แต่เนื่องจาก นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เดินทางมาเข้าพบพอดี จึงไม่สามารถมาต้อนรับได้ โดย พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวว่า วันที่ 10 เม.ย.นี้ พล.อ.เปรม จะเปิดบ้านให้บุคคลต่าง ๆ เข้ารดน้ำ เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ในวันที่ 8 เม.ย.ก่อน องคมนตรีชี้ปัญหาจากขัดแย้ง

ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นนทบุรี นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี แสดงปาฐกถาเรื่อง ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อชาติและประชาชน ในงานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2552 ตอนหนึ่งว่า เป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้มีการโฟนอินอะไรต่ออะไรมา ดังนั้นในฐานะองคมนตรี การมาพูดอะไรในที่ชุมนุมชนจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แม้กระทั่งการใส่เสื้อสีต่าง ๆ หรือการพูดในเนื้อหาอะไร ดังนั้นอะไรที่ได้ยินมา จึงไม่กล้าที่จะนำข้อมูลอะไรใหม่ ๆ มาเล่าได้ เพราะไม่สมควรที่จะมาเล่า ในที่ชุมนุมชน ความขัดแย้งของข้าราชการการเมืองต่อข้าราชการเมือง ความขัดแย้งของข้าราชการประจำต่อข้าราชการประจำ และความขัดแย้งของข้าราชการการเมืองต่อข้าราชการประจำ มีจำนวนมาก และความขัดแย้งส่วนใหญ่ที่วิเคราะห์กัน เกิดขึ้นจากปัญหาการคอร์รัปชั่นที่เกิดมาช้านานจนกลายเป็นประเพณีไทย จะมากจะน้อยแล้วแต่ฝ่ายบริหารที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง และมักเกิดขึ้นในกระทรวง กรมที่มีอำนาจสูง มีความสำคัญทางการเมือง มีงบประมาณมีเงินเพื่อจัดซื้อจัดจ้างจัดทำโครงการขนาดใหญ่ เมื่อมีเงินก็ต้องมีตำแหน่งสำคัญ ๆ โดยเฉพาะการติดต่อ นายที่ส่วนมากจะเป็นนักการเมือง จนนำมาสู่การ กล่าวหาทางการเมือง และเป็นการกล่าวหาที่เสื่อมเสีย แนะ ขรก.อย่าพายเรือให้โจร

นายอำพล กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ตามมาตรา 259-280 และ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในหมวด 5-11 มาตรา 28-129 ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นแนวทางให้ข้าราชการสามารถนำมาปฏิบัติ ทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจ การกระทำที่ขัดต่อประโยชน์ของชาติ รวมถึงการดำเนินคดีอาญาและจริยธรรมทั้งข้าราชการ และนักการเมือง ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ข้าราชการสามารถที่จะนำมาอุทธรณ์ หากพบว่าไม่ได้ความเป็นธรรมจากนักการเมืองข้าราชการไม่ต้องการพายเรือให้โจรนั่ง นอกจากนั้น เป็นที่โชคดีที่เรามีสถาบัน พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการและประชาชน ในใจผมเชื่อเสมอว่าหากใครทำไม่ดีต่อสถาบัน คนเหล่านั้นมักจะมีอันเป็นไป เช่น เหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน เป็นต้น เพราะผมเคารพบูชาพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงเป็นพระประมุขเป็นจอมทัพไทย ทรงใช้พระราชอำนาจเพื่อปวงชนชาวไทย และพระองค์ก็ไม่เคยล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญเลย อย่างที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีโอกาสเข้าถวายงานพระองค์ บางคนเขากลับไม่เชื่อ และไม่ปฏิบัติตาม แต่ดีที่เขายังรับใส่เกล้าฯ นายอำพล กล่าว นักวิชาการรุมอัดองคมนตรี

ที่มูลนิธิบ้าน 111 นายวรพล พรหมิก บุตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะแนวร่วมนักวิชาการเพื่อ ประชาธิปไตยและสันติวิธี แถลงข่าวว่า เท่าที่ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า สมาชิกองคมนตรีบางคน ไปดำเนินการทางการเมือง หรือส่อไปในการใช้ตำแหน่งบารมี เพื่อชี้นำทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นการส่งเสริมกับระบอบประชาธิปไตย แต่กลับส่งเสริมอำนาจนอกระบบ ที่มีการใช้กำลังอาวุธทำการรัฐประหาร ส่งองคมนตรีท่านหนึ่ง ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ซึ่งถือว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนั้น ยังพบว่า ข้อมูลจำนวนหนึ่ง บ่งชี้ว่า มีองคมนตรีส่วนหนึ่ง ที่ยึดถือกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามไม่ให้องคมนตรียุ่งเกี่ยวทางการเมือง ไม่เห็นด้วยกับองคมนตรีบางคนที่ไปดำเนินการ โดยใช้บารมีตำแหน่ง เข้ามายุ่งเกี่ยว และเข้ามาชี้นำทางการเมือง การกระทำนี้ถือเป็นการกระทำขององคมนตรีส่วนบุคคล แต่ส่งผลกระทบให้ประชาชนสับสน และเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันองคมนตรีโดยรวม มั่นใจรัฐบาลไปก่อนสงกรานต์

พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี กล่าวถึงกรณีที่คนเสื้อแดงประกาศแตกหักในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ว่า ในส่วนของคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี จะแบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกตรึงกำลังการชุมนุมอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด และศาลยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี ขณะที่ส่วนที่ 2 คนเสื้อแดง 20-30 คันรถ จะเดินทางมาสมทบกับคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ซึ่งในส่วนคนเสื้อแดงในพื้นที่นั้นพร้อมที่จะปฏิบัติตามความเหมาะสม หากรัฐบาลใช้มาตรการความรุนแรงสลายการชุมนุมของประชาชนอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรม

ด้านนายนิรมิต สุจารี ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาเหตุของความแตกแยกขณะนี้เนื่องจากโครงสร้างของบ้านเมืองไม่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย ที่การเข้าสู่อำนาจไม่ได้มาจากประชาชน แต่ใช้ทหาร อำมาตย์สนับสนุน ที่สำคัญหลายคนมองว่าองคมนตรีไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ดูแล้วฝักใฝ่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

ส่วนนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ต้องการเดินทางมาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ จำนวนมาก แต่ส.ส.ได้ทัดทานไว้ แต่วันนี้เมื่อรัฐบาลบล็อกสัญญาณดีสเตชั่น แทนที่ประชาชนจะได้ติดตามชมการถ่ายทอดอยู่ที่บ้าน เขาก็ต้องลงขันออกค่าเดินทางมาร่วมชมร่วมฟังที่กรุงเทพฯ และถือโอกาสมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่กรุงเทพฯ ดังนั้นสงกรานต์นี้มั่นใจว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมจะไม่ลดจำนวนลงแม้จะมีคนเดินทางกลับบ้านก็จะมีคนมาแทน แต่ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ถึงสงกรานต์ โดยเชื่อว่าวันที่ 8 เม.ย.นี้จะมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก ยาวเกินบ้านสี่เสาเทเวศร์แน่นอน ม็อบเสื้อแดงบุกกระทรวงคลัง

ที่กระทรวงการคลัง ตั้งแต่เวลา 12.30 น. กลุ่ม นปช.เสื้อแดงได้เริ่มทยอยกลับมาชุมนุมอยู่บริเวณถนนพระรามหกใกล้กระทรวงฯ เริ่มปราศรัยโจมตีรัฐบาลเรื่อยมา ส่วนที่ทำเนียบฯเมื่อเวลา 13.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ ได้จัดกำลังเตรียมคนดาวกระจายไปยังกระทรวงการคลัง โดยใช้รถหกล้อ 4 คัน รถปิกอัพ 5 คัน นำขบวนโดยรถจักรยานยนต์ แต่ก่อนที่จะเคลื่อนขบวน ไม้กระดานที่วางพาดไว้บนรถหกล้อเกิดเลื่อนหลุด ทำให้คนที่นั่งอยู่ตกลงมาได้รับบาดเจ็บหัวแตกเลือดไหลอาบไป 2 คน แต่ขบวนก็ยังเคลื่อนต่อไป

จนกระทั่งเวลา 14.30 น. จึงมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 400 คน ทยอยเดินทางมาสมทบโดยไม่มีแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ร่วมเดินทางมาด้วย มีการแจกน้ำดื่ม ข้าวกล่อง และนั่งพักรับประทานกัน ในขณะที่แกนนำก็ขึ้นรถขยายเสียงกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล รวมถึงการกู้เงินจากต่างประเทศ โดยนายสุภรณ์ ระบุว่ารัฐบาลชุดนี้ ทำให้ประชาชนมีหนี้สินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคนละ 2 หมื่นบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อย พร้อมรถลำเลียงผู้ต้องหา 6 คันได้มาจอดไว้ใกล้ประตูทั้ง 6 ประตู โดย พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. กล่าวว่าได้จัดเตรียมกำลังไว้ 2 กองร้อยเพื่อดูแลความปลอดภัยกระทรวงการคลัง กลุ่มคนเสื้อแดงได้ปักหลักปราศรัยโจมตีอยู่ประมาณชั่วโมงเศษจนเหนื่อย จึงพากันเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์จากประเทศอังกฤษว่า ไม่ได้มีความกังวล แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายและยืนยันว่า ที่ผ่านมาการกู้ยืมเงินมีความโปร่งใส โดยรัฐบาลจะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก หอการค้าไทยมีแถลงการณ์

นายดุสิต นนทนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ต้องการให้บุคคลที่เป็นต้นเหตุของการบั่นทอน ใช้สติทบทวนไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยมองถึงประโยชน์ของคนส่วนให ญ่ มิใช่ประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง และยุติการบั่นทอนสภาพเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ทุกประเทศทั่วโลกกำลังจับตาดูประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งภาคเอกชนต้องการเห็นอำนาจหลักทั้ง 3 กระบวนการประชาธิปไตย ทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง และไม่ควรได้รับการกล่าวถึงโดยปราศจากเหตุผล ตอนนี้ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ แต่ในไทยกลับมีการใช้คำพูดที่รุนแรง ยั่วยุให้เกิดความแตกแยก เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศให้เลวร้ายลงไปกว่าเดิม กระทบความเชื่อมั่นทางด้านการลงทุน อันมีผลต่อผู้ประกอบการ แรงงานไทย และคนไทยทุกคน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีความพยายามบริหารประเทศเต็มที่ โดยมีมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่อง และพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับนักลงทุน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส.กำนัน-ผญบ.แถลงการณ์

ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2552 โดย นายยงยศ แก้วเขียว ว่าที่นายกสมาคมฯ ได้อ่านแถลงการณ์ว่า ตามที่สภาวการณ์ของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ได้มีกระแสความแตกแยกทางความคิดในอุดม การณ์ทางการเมือง ส่งผลก่อให้เกิดการนำมาซึ่งความวุ่นวายของบ้ลเสียหายให้แก่ประเทศชาติในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงการละเมิดและบั่นทอนสถาบันสำคัญของชาติ อันอาจนำมาซึ่งความแตกแยกของสังคมไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสมาคมฯไม่เห็นด้วย และขอแถลงจุดยืนเพื่อให้พี่น้องประชาชนให้ร่วมมือกันนำพาพี่น้องราษฎรในพื้นที่ดำเนินการ คือ 1.ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่ยินยอมให้ผู้ใดมาลบหลู่ 2.ให้ทุกฝ่ายยุติการชุมนุมประท้วงโดยเร็วที่สุด เพื่อมิให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ ที่อาจเกิดขึ้นเกินความคาดหมายได้ 3.ให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันฟื้นฟู สร้างความเข้าใจ อันจะนำมาซึ่งความสามัคคีและสมานฉันท์ของคนในชาติโดยเร็วที่สุด อนุพงษ์ ทำทุกอย่างเพื่อชาติ

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ว่า ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พูดกับผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ถึงบทบาทกองทัพบกต่อสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันว่า การดำเนินการทุกอย่างของกองทัพบก จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและสังคมโดยรวม กองทัพมีจุดยืนชัดเจนว่าเป็นองค์กรที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยจะประคับประคองสถานการณ์ของชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติทางความคิด เพื่อเข้าสู่ความสมัครสมานสามัคคีสังคมเป็นสุข โดยขณะนี้การปฏิบัติการของกองทัพบกในการดูแลบ้านเมืองเป็นเพียงผู้ช่วยเจ้าพนักงานดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ที่ประชุมไม่มีการพูดถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำว่ากองทัพมีจุดยืนตลอดว่า จะไม่ให้เกิดการปะทะกันของประชาชน ดังนั้น กองทัพจะไม่มีการใช้ความรุนแรงหรือใช้กำลังกับประชาชน ทหารมีหน้าที่ดูแลสถานที่ราชการเท่านั้น ขณะนี้กำลังทหารลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากเดิมที่ใช้ 21 กองร้อย ดูแลสถานที่สำคัญต่าง ๆ แต่กำลังส่วนใหญ่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล แม่ทัพภาค 1 เผยยังไม่น่าห่วง

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า จากการประเมินและติดตามการชุมนุมมากว่า 5 วัน ยังไม่พบสิ่งใดที่น่าเป็นห่วง หรือมีอะไรที่รุนแรง เพราะการชุมนุมก็เป็นไปอย่างสงบ ส่วนการประชุมวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เกี่ยวกับ การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถดูแลได้ ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าจะไปชุมนุมปิดล้อมที่บ้านพัก พล.อ.เปรม เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนั้น การดูแลความปลอดภัยเป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

mคนเสื้อแดงในจังหวัดต่าง ๆ

ที่ จ.ชุมพร นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขกานต์ ผวจ. พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีกลุ่มคนเสื้อเหลือง ออกมาขับไล่คนเสื้อแดงไม่ให้อยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร นายการัณย์ กล่าวว่า มีเพียง พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ นายตำรวจนอกราชการ ได้สวมเสื้อแดงของ นปช.นำรถติดป้ายชมรมเสื้อแดงขับมาจอดที่หน้าสถานีรถไฟชุมพรเพื่อเปิดปราศรัย แต่มีชาวบ้านโห่ร้องขับไล่ ไม่สามารถเปิดปราศรัยได้ พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผกก. สภ.เมืองชุมพร จึงกันตัวออกมาก่อนที่จะมีเหตุรุนแรง ซึ่งทางราชการได้เตรียมมาตรการรับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ไว้แล้วเน้นไม่ให้มีการปะทะกันเด็ดขาด

ที่ จ.กระบี่ เครือข่ายกลุ่มรักษ์ใต้ นำโดย นายอำพร ตันบุตร ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล กรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กล่าวหาให้ร้ายประธานองคมนตรีอย่างรุนแรง เครือข่ายกลุ่มรักษ์ใต้ ขอเรียกร้องรัฐบาลดำเนินการให้ยุติการกระทำดังกล่าวโดยด่วน

ที่ จ.ตรัง เครือข่ายคนรักษ์ใต้ นำโดย นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ นายปรีดิ์โมทย์ เลิศวรภัทร ได้ออกแถลงการณ์ปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยจะมีการชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดพร้อมกันใน 14 จังหวัดภาคใต้ในวันที่ 3 เม.ย. เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จัดการชุมนุมปิดล้อมบ้านแกนนำ นปช.ในภาคใต้ และจัดชุมนุมประชิดกลุ่ม นปช.ในกรุงเทพฯ ถ้าหากยังมีการพูดพาดพิงถึง พล.อ.เปรม อีก เสื้อแดงขู่บอยคอตปิด กสท.

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงก่อนขึ้นปราศรัยว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะตัดสัญญาณแพร่ภาพออกอากาศของดีสเตชั่นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการริดรอน สิทธิเสรีภาพ และจะยิ่งเป็นชนวนให้ประชาชนมาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น ตนขอเตือน บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ควรจะใช้วิจารณ ญาณขององค์กร ในการตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง อย่าไปอยู่ในความครอบงำของผู้มีอำนาจ หาก 3 วันไม่ดำเนินการใด ๆ ในการต่อสัญญาณดีสเตชั่นกับเคเบิลทีวี เตรียมคอยรับคนเสื้อแดงได้เลย และจะบอยคอตสินค้าและบริการของ กสท. ส่วนของ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้พยายามตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ แต่ยังทำไม่สำเร็จ วันนี้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แทรกแซงสื่อ โดยคนที่เคยต่อสู้เพื่อรักษาเอ็นบีที เมื่อครั้งกลุ่ม พันธมิตรฯบุกยึดสถานี เช่น น.ส.ตวงพร อัศว วิลัย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ถูกห้ามเป็นผู้ประกาศ ของสถานีต่อไป เป้าหมาย พล.อ.เปรม ต้องออก

นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับวันที่ 8 เม.ย. ตั้งเป้าว่าจะมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมชุมนุมถึง 3 แสนคน แต่อาจจะมีมากกว่านั้น และจะถือเป็นวันสิ้นสุดอำมาตฯ แม้วันดังกล่าว พล.อ.เปรมจะหลบไปบ้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook