ธุรกิจเกษตร-บริการขาดสภาพคล่อง
ทั้งนี้ผู้ประกอบการมองว่า ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองรอบสองเป็นปัจจัยลบที่กระทบต่อการทำธุรกิจมากสุด รองลงมาเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลก นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกับประ สิทธิภาพการดำเนินงนของรัฐบาลที่ยังไม่เพียงพอ และการขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยภาคธุรกิจส่วนใหญ่คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว ลบ 2% ถึงลบ 1% ส่วนปี 53 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง 3-4%
ตอนนี้ภาคธุรกิจมองว่ามาตรการกระ ตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการจ้างงาน แก้ปัญหาสภาพคล่องธุรกิจ การส่งเสริมการลงทุน และส่งออก ทำออกมาน้อยมาก นอกจากนี้ เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประ เทศมาเที่ยวไทยลดลง ส่งผลให้ขาดสภาพคล่อง การส่งออก รวมถึงยอดขาย ยอดรับคำสั่งซื้อ กำไร และการจ้างงานลดลงมาก
นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำผลสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ มหา วิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ภาคธุรกิจขาดสภาพคล่อง มาจากคำสั่งซื้อลดลงถึง 92.9% รองลงมาเป็นปัญหาด้านหลักทรัพย์ค้ำประกัน 5% แหล่งเงินกู้ไม่ปล่อยสินเชื่อ 1.5% และลูกค้าไม่จ่ยค่าสินค้า 0.6% สำหรับวิธีแก้ปัญหาส่วนใหญ่ตอบว่าใช้กำไรสะสม รองลงมาคือ ขอสินเชื่อจากธนาคารแห่งอื่น เจรจาขอผ่อนผันชำระหนี้ หรือชำระหนี้เท่าที่มีอยู่ หยุดชำระหนี้ หรือเลิกกิจการ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าวว่า ภาคธุรกิจกำลังขาดสภาพคล่องหนัก และขณะนี้ทยอยนำกำไรสะสมมาใช้ ซึ่งจะประคองธุรกิจไปได้ไม่เกิน 8 เดือน ซึ่งต่อไปหากเศรษฐกิจไม่ฟื้นและยอดขายภาคธุรกิจไม่ดีขึ้น ประกอบกับธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อ จะเริ่มเห็นการปลดพนักงานเพิ่มและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้าออกไป รวมถึงส่งออกทั้งปีอาจติดลบ 15%.