พล.อ.พิจิตร ชี้ ทักษิณ จ้องล้มสถาบัน

พล.อ.พิจิตร ชี้ ทักษิณ จ้องล้มสถาบัน

พล.อ.พิจิตร ชี้ ทักษิณ จ้องล้มสถาบัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.อ.พิจิตร องคมนตรี ชี้  ทักษิณ จ้องล้มสถาบัน จี้รัฐบาลเร่งดำเนินคดีฐานหมิ่น พร้อมกับตรวจสอบพฤติกรรมบนเกาะคีย์แมน อักขราทร ปฏิเสธร่วมก๊วนวางแผนปฏิวัติ นักวิชาการประสานเสียงชี้ ทักษิณ โฟนอินเล่นงานองคมนตรี เพราะโจมตีรัฐบาลไม่เป็นผล แนะทางออกให้รัฐบาลอยู่เฉยตั้งใจบริหาร และอย่าสร้างเงื่อนไขแล้วรอให้"ทักษิณ"หมดเงินไปเอง

(3เม.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า ตนเป็นทหารอาชีพ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องปกป้องประเทศไทยที่อยู่รอดมาได้เพราะพระมหากษัตริย์ทรงปรีชาสามารถตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม สถานการณ์การเมืองที่เป็นแบบนี้เพราะเราไม่ได้สร้างคนสร้างแต่วัตถุ ดังนั้นเราต้องสร้างคน

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นองคมนตรีเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า เราต้องสร้างคนตั้งแต่เด็กอย่าเน้นวัตถุ ทุกวันนี้พระแก้วมรกตเยาวชนยังไม่รู้ อีกหน่อยก็จะเหมือนเขาพระวิหารใครเอาไปก็ไม่มีความห่วงแหน เพราะไม่ได้รับรู้ความสำคัญของพระแก้วมรกต

เมื่อถามว่า เป็นห่วงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ไม่อยากฝาก เพราะตนเป็นองคมนตรี

พล.อ.พิจิตร กล่าวด้วยว่า แต่อยากให้มีการตรวจสอบการฟอกเงินที่เกาะคีย์แมน ลองคิดดูทำงานมาแค่ 5 - 6 ปีมีเงินฝากถึง 1 แสนล้านบาทได้อย่างไร

เมื่อถามว่า หน่วยงานของรัฐย่อหย่อนในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ลองคิดเอาเอง เมื่อถามว่ารัฐบาลควรจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องนำมาแฉให้ประชาชนรับรู้ให้ได้ สืบมาว่าคืออะไร เมื่อถามว่า การต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการจ้องล้มสถาบันหรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า แน่นอน ทั้งนี้ทำไมคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ไปดำเนินการ

"ปัญญาชนต้องคิดตรอง และไปเชื่อเขาได้อย่างไร ผมเป็นทหารชั่วชีวิตใช้ไปรบที่ไหนก็ไป เคยไปร่วมงานศพอยู่หน้าเชิงตะกอน และก็ยืนปลง คนเรามีแค่นี้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ร่างเอาไปไม่ได้ กระดูกก็เอาไปไม่ได้ สตางค์ในปากก็ยังเอาไปไม่ได้เลย แล้วจะโลภโมโทสันกันไปทำไม ทั้งนี้ยอมรับว่าองคมนตรีได้มีการพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมืองทุกอาทิตย์"พล.อ.พิจิตร กล่าว

เมื่อถามว่า ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นเพราะตัวอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ไม่อยากพูด แต่สื่อลองไปคิดดูเอาเอง เมื่อถามว่า เสียงขององคมนตรีที่มี 18 เสียงจะสามารถสู้เสียงของกลุ่มคนเสื้อแดงได้หรือไม่ พล.อ.พิจิตร กล่าวว่า ต้องจี้ให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ

"สุเทพ"รับตรวจสอบเส้นทางฟอกเงิน

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ต้องขอดูรายละเอียดก่อน เพราะมีความรู้ในเรื่องอย่างนี้น้อย แต่น่าสนใจน่าศึกษา

"อักขราทร"ปฏิเสธร่วมก๊วนวางแผนปฏิวัติ

ที่ท่าอาศยานสุวรรณภูมิ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงกล่าวพาดพิงสถาบันศาลว่าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ว่า ไม่มี ตนอยู่ข้างนอก ถ้ามีอะไรจะพาดพิง ให้ไปถามคนที่ถูกพาดพิง คนที่ถูกเอ่ยชื่อแม้จะพูดเรื่องส่วนตัวยังพูดไม่ได้เลย จะไปพูดเรื่องปฏิวัติได้อย่างไร

เมื่อถามว่าเคยไปรับประทานอาหารที่บ้านนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา และพูดเรื่องปฏิวัติหรือไม่ นายอักขราทร กล่าวว่า เรื่องไปทานข้าวไปทานหลายบ้าน แต่ไม่มีเรื่องปฏิวัติ

ต่อข้อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นกระทบกับสถาบันศาล และมีสาเหตุมาจากตุลาการภิวัตน์หรือไม่ นายอักขราทร กล่าวว่า ไม่กระทบ และย้อนถามว่ารู้จักตุลาการภิวัตน์หรือไม่ ว่าคืออะไร ซึ่งวันที่ 5 เมษายน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะจัดงานวันสัญญาธรรมศักดิ์ ให้สื่อมวลชนไปฟัง แล้วจะรู้ว่าตุลาการภิวัตน์เป็นอย่างไร

นักวิชาการชี้"ทักษิณ"พุ่งเป้าเล่นงานองคมนตรีเพราะเหตุโจมตีรัฐบาลเหลว

ที่มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวเรื่องการอ่านเกมการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทางออกของประเทศไทย โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การเปิดแนวรบกับองคมนตรี ในฐานะอยู่เบื้องหลังรัฐประหาร มาจากหลายสาเหตุ เช่น แสดงให้เห็นแล้วว่า การโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เริ่มไม่เป็นผล เนื่องจากรัฐบาลมีผลงานเข้าตาเอกชนพอสมควร จากการที่หอการค้าไทย ให้คะแนนรัฐบาลเต็ม 10 และรัฐบาลเพิ่งเริ่มงานเพียง 3 เดือน ไม่มีข้อผิดพลาดให้โจมตี และการเปิดแนวรบกับองคมนตรี เป็นความอัดอั้นตันใจส่วนบุคคล เนื่องจากคนหนึ่งเป็นคนที่อยู่เหนือรัฐบาลในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจ อีกคนเป็นนายกฯหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณหมดอำนาจ และยังดำเนินการด้านคดีให้พ.ต.ท.ทักษิณเดือดร้อน ซึ่งเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่กล้าเปิดแนวรบในระดับที่สูงกว่านั้น เพราะเป็นประเด็นที่เปราะบาง นอกจากนี้ยังมีการใช้คำว่า อมาตยาธิปไตย ที่หมายความถึงองคมนตรี เป็นการใช้คำผิด เพราะอมาตยาธิปไตย คือการปกครองที่ระบบราชการมีความเข้มแข็งครอบงำฝ่ายการเมือง ไม่ใช่บุคคลเกษียณราชการมีอิทธิพลทางการเมือง

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ในเรื่องการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น เพื่อรักษาการชุมนุมให้ต่อเนื่อง มีการกล่าวถึงการลงทุนเหมืองเพชรในแอฟริกา เป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่กลุ่มเดียวกันว่า ยังมีเงินสนับสนุนอีกมาก ซึ่งอาจแปลความได้ว่า แม้ในพวกเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวจะมีเงินเหลือเพื่อดำเนินการอีกไม่นาน อีกทั้งการชุมนุมของคนเสื้อแดง เป็นการชุมนุมที่ปิดกั้นตนเองจากคนภายนอก ไม่ต้อนรับคนเสื้อสีอื่น มีข่าวการทำร้ายประชาชนใส่เสื้อต่างสีเข้าพื้นที่การชุมนุม ทำให้สีแดงเป็นที่น่ารังเกียจของคนทั่วไป แม้จะชุมนุมแบบดาวกระจายเข้าไปในพื้นที่ใดก็ไม่เป็นที่ต้อนรับ แกนนำต้องทบทวนท่าที และสร้างทัศนคติให้คนในสังคมว่าเป็นการชุมนุมโดยสันติ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ หลีกเลี่ยงความรุนแรงทั้งวาจาและพฤติกรรม

นายสมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.นั้น เป็นการสำแดงกำลังครั้งสุดท้ายที่ทำได้ก่อนสงกรานต์ จะสามารถยืดเยื้อได้ไม่เกินวันที่ 10 เม.ย. จากนั้นกระแสจะลด แล้วถึงจะนัดชุมนุมใหญ่ได้อีกครั้งในวันที่ 20 - 21 เม.ย. ซึ่งประมาณการผู้ชุมนุม น่าจะสูงสุดไม่เกิน 80,000 คน โดยครึ่งหนึ่ง จะเป็นมวลชนจัดตั้งจากส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ที่ระดมเข้ามาจากต่างจังหวัด อีก 1 ใน 4 เป็นมวลชนจัดตั้งจากส.ส.เพื่อไทย ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และอีก 1 ใน 4 เป็นผู้ตื่นตัวและสนใจทางการเมือง และนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ และต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งประมาณค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นเงินที่ประชาชนเสียสละกันมาเอง หรือเป็นเงินจากแหล่งใดที่ยังเป็นโจทย์ที่ต้องหาคำตอบก็ตาม สำหรับคนต่างจังหวัด ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 บาทต่อหัว เป็นเงิน 40 ล้านบาท กทม.และปริมณฑล 500 บาทต่อหัว เป็นเงิน 10 ล้านบาท

นายสมชัย กล่าวต่อว่า เป้าหมายในการชุมนุม หากเป็นเพื่อการสำแดงกำลัง ก็จะเป็นการใช้เงินเสียเปล่าอีกครั้งหนึ่ง แต่หากต้องการเผด็จศึกภายใต้แนวทางการต่อสู้นอกสภา คือ เกิดภาวะวุ่นวายที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมฝูงชนได้ หรือมีการใช้มาตรการทำร้ายประชาชน จนเป็นภาวะจลาจล และรัฐบาลต้องประกาศลาออก หรือมีทหารเข้ามาทำการรัฐประหารตามแผนการ โดยมีการจ่ายค่าจ้างที่สูงมากในการดำเนินการ ทุกวิธีล้วนมุ่งเอาชนะบนความบอบช้ำของประเทศ อย่างไรก็ตาม การเจรจากับกลุ่มเสื้อแดง ไม่มีประโยชน์ ไม่มีคนกลางมาไกล่เกลี่ย จะต้องเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น แต่จะเจรจาอะไรในเมื่อโทษจำคุกเป็นเรื่องที่ศาลตัดสินแล้ว คดีความต่างๆ ก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรม

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ทางออกของสังคมจึงมีไม่กี่แนวทาง คือ 1. ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ค่อยๆ หมดเงิน หมดบารมีไปเอง ในขณะที่รัฐบาลค่อยๆ เข้มแข็งมากขึ้น จากการแปรพักตรของส.ส.เพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ รัฐบาลต้องไม่เป็นเงื่อนไขในการสร้างความขัดแย้ง โดยตั้งใจบริหารประเทศ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงให้โจมตีได้ 2. สังคมต้องเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุม เห็นแก่ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ หากไร้เสถียรภาพการเมือง เศรษฐกิจยิ่งเสียหาย 3. ในการชุมนุมอย่างไร้เหตุผล ก่อให้เกิดผลเสีย ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของเสื้อสีใด ประชาชนควรแสดงท่าทีรังเกียจ ไม่ร่วมสังฆกรรม

4. ประเด็นที่ฝ่าย นปช. ควรสร้างแนวร่วม คือ เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองโดยทุกฝ่าย และมีฝ่ายเป็นกลางเข้าร่วม เพื่อวางรากฐานประชาธิปไตย เพราะแม้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ สิ่งที่ได้มาก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ยังเป็นการใช้เงินและอิทธิพล ถ้าเห็นว่าการที่รัฐบาลมอบให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพปฏิรูปการเมืองไม่เหมาะสม ก็ควรเสนอสูตรหรือแนวทางในการดำเนินการมากกว่า อย่างไรก็ตาม มองว่า การระดมพลวันที่ 8 เม.ย.มีความน่าเป็นห่วง เพราะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถดูแลผู้ชุมนุมของแกนนำ ไม่ให้เข้าสถานที่ราชการ หรือที่ส่วนบุคคล เช่น บ้านสี่เสาเทเวศร์ จนเกิดการปะทะ

พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานมูลนิธิองค์กรกลางฯ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงให้ประชาชนเห็นว่ามุ่งทำงานมากกว่า และขอให้ปฏิบัติตามแนวทางการเมืองที่นักการเมืองมีจริยธรรม รับผิดชอบทางการเมืองมากขึ้น ส่วนเรื่องความเป็นห่วงที่จะมีการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่นั้น ตนได้เข้าพบผู้นำกองทัพ เขายืนยันว่า ไม่มีแน่ ตอนนี้เป็นเรื่องของตำรวจที่จะดูแลรักษาความปลอดภัย แต่อาจมีโอกาสที่ทหารนอกแถวจะมาเคลื่อนไหวปฏิวัติ ด้วยปัจจัยที่ว่า มีเงิน มีลาภยศมาล่อ แต่เชื่อว่า ทหารอาชีพก็จะออกมาจัดการพวกนี้ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ออกมาชุมนุมกัน ก็ไม่รู้ว่า จะเอาประชาธิปไตยแบบไหน หรือเอาอำนาจเก่ากลับมา แต่อย่าให้มีปฏิวัติปลอม

ด้านนายสกุล สื่อทรงธรรม กรรมการเลขานุการมูลนิธิองค์กรกลางฯ กล่าวว่า การออกนอกแถวของสีกากีขณะนี้ไม่เหมาะสม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องวางตัวเป็นกลาง สังคมจะได้เชื่อมั่น ส่วนเรื่องที่มีการอ้างการพยายามปิดกั้นการสื่อสารของดีทีวีนั้น เราก็ต้องรอกฎหมายจัดสรรคลื่นความถี่ จะได้ไม่ถูกเสื้อแดงอ้างว่า ปิดกั้นการสื่อสารเขา แต่อย่างไรก็ตาม การสื่อข่าว ต้องเผยแพร่ข่าวสารทั้งสองด้าน

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook