อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์สื่อนอก ยันไม่ยุบสภา-เน้นกระตุ้นศก. สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. อ้างการให้สัมภาษณ์ของ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำไทย ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวปฎิเสธว่า รัฐบาลจะไม่การเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองที่ยืดเยื้อกินระยะยาว พร้อมทั้งยืนยันว่า การรณรงค์บนท้องถนนของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจะไม่เบี่ยงเบนความสนใจของรัฐบาลจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาคิดว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เมืองไทยถูกบริหารอย่างมีเสถียรภาพมากกว่าเดิม โดยรัฐบาลของเขาได้แก้ไขความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน และว่าถึงขณะนี้การประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย โดยรัฐบาลเปิดโอกาสให้กลุ่มประท้วงได้ ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนญ โดยที่ผ่านมาไทยเคยเผชิญการประท้วงใหญ่ ๆ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาแต่ก็ปราศจากความรุนแรง และการยับยั้งขัดขวางใด ๆ ซึ่งเราคิดว่าการประท้วงก็คงอยู่ภายในกรอบระดับนี้ และว่า เขาเชื่อว่าความรุนแรงสามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าจะมีทางตันระหว่างกลุ่มม็อบเสื้อแดงและกลุ่มม็อบเหลือง และว่าถึงขณะนี้เขายังไม่เห็นการประท้วงใหญ่โตในลักษณะยึดสนามบินในกรุงเทพบรรยากาศของประเทศนั้นชัดเจน คนไทยต้องการเดินไปข้างหน้า และเราไม่ต้องการเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วซ้ำรอยอีก
นอกจากนี้ ผู้นำไทยกล่าวด้วยว่า รัฐบาลของเขากำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ2 รวมทั้งงานระบบสาธารณูปโภค ที่จะช่วยฉุดเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวเป็นบวกก่อนสิ้นปีนี้
ปชป.เปิดข้อมูลอ้างญาติผู้ใหญ่วัย80เรียกทักษิณคุย
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังเดินทางออกจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปยังประเทศแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป เพื่อไปเจรจากับผู้ใหญ่ที่เป็นญาติผู้ใหญ่วัย 80 ปี ของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยผู้ใหญ่คนนี้เป็นอดีตทูต เสรีไทย และมีความสนิทสนมกับนายเติ้ง เสี่ยว ผิง อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นการนัดกันผ่านทางคนสนิทของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ โดยคนสนิทคนดังกล่าว เป็นคนที่อยู่ตรงข้ามกับคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังร่วมศึกสงครามและเคลื่อนไหวร่วมกับคนเสื้อแดงอยู่ในขณะนี้ โดยการเจรจาดังกล่าว จะเป็นการเจรจาเพื่อหาทางลงให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เนืองจากเห็นว่าการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา มันไปต่อไม่ได้อีกแล้ว จึงเชื่อว่า โทนการปราศรัยผ่านวีดีโอลิงก์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในคืนนี้จะเปลี่ยนไปในทางที่เป็นผลดีต่อประเทศชาติมากขึ้น
เมื่อถามว่า ญาติผู้ใหญ่คนดังกล่าว เป็นคนเดียวกับที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่าจะมีผู้มีบุญบารีมมาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดงหรือไม่ นายบุญยอด กล่าวว่า เป็นคนละคนกัน โดยข้อมูลนี้ตนได้จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่า ให้จับตาดูการวีดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณในคืนนี้ ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
ปธ.วุฒิ เผย มีคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาการเมือง ระบุ เรียบร้อยก่อนสงกรานต์
ที่รัฐสภา นาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า จะมีคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ ว่า ขณะนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีความเป็นห่วงในสถานการณ์การเมือง และไม่ได้นิ่งนอนใจาที่ทราบขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ โดยได้มีการประสานกับคนกลางที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว โดยคนกลางคนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความเคารพ และเชื่อถือ จะมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เชื่อว่า คงเจรจากันได้ เพราะสิ่งใดที่จะทำให้บ้านเมืองสงบทุกคนก็ต้องการ แต่ตนคงบอกไม่ได้ว่าเป็นใครและเรื่องแบบนี้คงจะพูดรายละเอียดไม่ได้ อย่างไรก็ตามการเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหาจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 8 เมษายน ที่เป็นวันชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อถามว่า ได้หารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน อย่างไรก็ดี ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีความเป็นห่วงสถานการณ์ในขณะนี้ ก็มีความพยายามทำกันอยู่ จะเรียบร้อยก่อนวันสงกรานต์ ซึ่งได้มีการประสานกันเป็นภายในแล้ว เทพไทเชื่อถ้าแม้วคุยสุเทพหวังรอคนมาสงบศึก นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ถึงกรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พร้อมเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่า ถามว่า เป็นความประสงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่ และตนจะแน่ใจได้ก็ต่อเมื่อได้ฟังจากปากพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เชื่อว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมเจรจาจริง ก็เป็นไปตามแผนที่ต้องการกดดันสถานการณ์ เพื่อรอให้ใครคนหนึ่งมาเจรจาสงบศึกให้ อย่างไรก็ตาม หากมีการเจรจาจริงจะต้องปราศจากผลประโยชน์ส่วนตัว และจะต้องมีข้อตกลงที่เป็นผลประโยชน์ส่วนรวม และอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายไม่มีการยกเว้น